แนวข้อสอบ
พระราชบัญญัติการอาชีวศึกษา พ.ศ. ๒๕๕๑
ก. ๒๖ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๑ ค. ๒๖ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๑
ข. ๒๗ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๑ ง. ๒๗ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๑
ตอบ ก. ๒๖ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๑
ก. นายกรัฐมนตรี ค. คณะกรรมการการอาชีวศึกษา
ข. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ง. ผู้ที่พระมหากษัตริย์ทรงแต่งตั้ง
ตอบ ข. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
ก. 5 หมวด 63 มาตรา 1 บทเฉพาะกาล ค. 6 หมวด 63 มาตรา 1 บทเฉพาะกาล
ข. 5 หมวด 65 มาตรา 1 บทเฉพาะกาล ง. 6 หมวด 65 มาตรา 1 บทเฉพาะกาล
ตอบ ค. 6 หมวด 63 มาตรา 1 บทเฉพาะกาล
ก. พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ค. นายสมัคร สุนทรเวช
ข. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ง. พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์
ตอบ ง. พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์
ก. กฎหมายว่าด้วยการศึกษาแห่งชาติได้บัญญัติให้มีคณะกรรมการการอาชีวศึกษาเพื่อควบคุมดูแลการจัดการอาชีวศึกษา
ข. กฎหมายว่าด้วยการศึกษาแห่งชาติได้บัญญัติให้มีการดำเนินการจัดการอาชีวศึกษาและการฝึกอบรมวิชาชีพให้เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยการอาชีวศึกษา
ค. ให้มีการจัดการอาชีวศึกษาและการฝึกอบรมวิชาชีพในทุกระดับมีคุณภาพและประสิทธิภาพเกิดผลสำเร็จแก่ประชาชนโดยเฉพาะนักเรียนและนักศึกษา เป็นการสอดคล้องกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติและแผนการศึกษาแห่งชาติ
ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
ก. กระบวนการศึกษาเพื่อผลิตและพัฒนากำลังคนในด้านวิชาชีพระดับฝีมือ
ข. กระบวนการศึกษาเพื่อผลิตและพัฒนากำลังคนในด้านวิชาชีพระดับเทคนิค
ค. กระบวนการศึกษาเพื่อผลิตและพัฒนากำลังคนในด้านวิชาชีพระดับเทคโนโลยี
ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
ก. รูปแบบเดียว ค. 3 รูปแบบ
ข. 2 รูปแบบ ง. 4 รูปแบบ
ตอบ ค. 3 รูปแบบ ได้แก่ 1. การศึกษาในระบบ 2. การศึกษานอกระบบ 3. การศึกษาระบบทวิภาคี
ก. มาตรา 6 ค. มาตรา 12
ข. มาตรา 10 ง. มาตรา 7
ตอบ ก. มาตรา 6
ก. การศึกษาในระบบ ค. การศึกษาตลอดชีวิต
ข. การศึกษานอกระบบ ง. การศึกษาระบบทวิภาคี
ตอบ ค. การศึกษาตลอดชีวิต
ก. การศึกษาในระบบ ค. การศึกษาตลอดชีวิต
ข. การศึกษานอกระบบ ง. การศึกษาระบบทวิภาคี
ตอบ ก. การศึกษาในระบบ
ก. การศึกษาในระบบ ค. การศึกษาตลอดชีวิต
ข. การศึกษานอกระบบ ง. การศึกษาระบบทวิภาคี
ตอบ ข.การศึกษานอกระบบ
ก. การศึกษาในระบบ ค. การศึกษาตลอดชีวิต
ข. การศึกษานอกระบบ ง. การศึกษาระบบทวิภาคี
ตอบ ง. การศึกษาระบบทวิภาคี
ก. ประกาศนียบัตรวิชาชีพ ค. ปริญญาตรีสายเทคโนโลยีหรือสายปฏิบัติการ
ข. ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
ก. การมีเอกภาพด้านนโยบายและมีความหลากหลายในทางปฏิบัติโดยมีการกระจายอำนาจจากส่วนกลางไปสู่สถานศึกษาอาชีวศึกษาและสถาบัน
ข. การศึกษาในด้านวิชาชีพสำหรับประชาชนวัยเรียนและวัยทำงานตามความถนัดและความสนใจอย่างทั่วถึงและต่อเนื่องจนถึงระดับปริญญาตรี
ค. การศึกษาที่มีความแน่นอน และมีระบบเทียบโอนผลการเรียนและระบบเทียบประสบการณ์การทำงานของบุคคลเพื่อเข้ารับการศึกษาและการฝึกอบรมวิชาชีพอย่างต่อเนื่อง
ง. การมีระบบการพัฒนาครูและคณาจารย์ของการอาชีวศึกษาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ทันต่อความเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี
ตอบ ค. การศึกษาที่มีความแน่นอน และมีระบบเทียบโอนผลการเรียนและระบบเทียบประสบการณ์การทำงานของบุคคลเพื่อเข้ารับการศึกษาและการฝึกอบรมวิชาชีพอย่างต่อเนื่อง
(ที่ถูก คือ การศึกษาที่มีความยืดหยุ่น หลากหลาย และมีระบบเทียบโอนผลการเรียนและระบบเทียบประสบการณ์การทำงานของบุคคลเพื่อเข้ารับการศึกษาและการฝึกอบรมวิชาชีพอย่างต่อเนื่อง)
ก. พิจารณาเสนอแนะนโยบาย เป้าหมายการผลิตและแผนการพัฒนากำลังคนด้านวิชาชีพต่อรัฐมนตรี
ข. กำหนดหลักเกณฑ์ในการรับเข้าสมทบ การยกเลิกการสมทบ และการควบคุมดูแลสถานศึกษาอื่นหรือสถานประกอบการ
ค. ส่งเสริม สนับสนุน กำกับ และดูแลระบบการประกันคุณภาพภายในของสถานศึกษาอาชีวศึกษา สถาบันหรือสถานประกอบการเพื่อพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานการอาชีวศึกษา
ง. ถูกทุกข้อ
มาตรา ๑๑ นอกจากอำนาจหน้าที่ตามกฎหมายว่าด้วยการศึกษาแห่งชาติและกฎหมายว่าด้วยระเบียบบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการ ให้คณะกรรมการการอาชีวศึกษามีอำนาจหน้าที่ ดังต่อไปนี้
(๑) พิจารณาเสนอแนะนโยบาย เป้าหมายการผลิตและแผนการพัฒนากำลังคนด้านวิชาชีพต่อรัฐมนตรี
(๒) กำหนดหลักเกณฑ์การจัดตั้ง การรวม และการแยกสถานศึกษาอาชีวศึกษาหรือสถาบันตามมาตรา ๑๓ และมาตรา ๑๔
(๓) กำหนดหลักเกณฑ์ในการรับเข้าสมทบ การยกเลิกการสมทบ และการควบคุมดูแลสถานศึกษาอื่นหรือสถานประกอบการ
(๔) กำหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับลักษณะของสถานประกอบการที่จะเข้าร่วมจัดการอาชีวศึกษาและการฝึกอบรมวิชาชีพ หลักสูตรการอาชีวศึกษาและการฝึกอบรมวิชาชีพในสถานประกอบการ ตลอดจนหลักเกณฑ์การฝึกงาน และการเทียบโอนผลการเรียนหรือประสบการณ์ทำงานในสถานประกอบการ เพื่อขอรับคุณวุฒิการศึกษาจากสถานศึกษาอาชีวศึกษาหรือสถาบัน
(๕) กำหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการกำกับดูแลและการให้การรับรองมาตรฐานสถานศึกษาอาชีวศึกษา สถาบัน และสถานประกอบการให้สอดคล้องกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติและแผนการศึกษาแห่งชาติ
(๖) กำหนดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขเกี่ยวกับการได้รับสิทธิประโยชน์และการเชิดชูเกียรติแก่สถานประกอบการ สมาคมวิชาชีพ หรือองค์กรอื่น ตลอดจนการส่งเสริมความร่วมมือในการจัดการอาชีวศึกษาและการฝึกอบรมวิชาชีพระหว่างสถานศึกษาอาชีวศึกษา สถาบัน และสถานประกอบการ
(๗) กำหนดหลักเกณฑ์ในการแต่งตั้ง การทดสอบ การฝึกอบรมและการออกใบรับรองการเป็นครูฝึกในสถานประกอบการตามมาตรา ๕๕
(๘) เสนอแนะเกี่ยวกับการจัดสรรงบประมาณและการกำหนดนโยบายในการระดมทุนทรัพยากร รายได้ หรือการจัดตั้งกองทุนอื่นต่อรัฐมนตรี
(๙) ส่งเสริม สนับสนุน กำกับ และดูแลระบบการประกันคุณภาพภายในของสถานศึกษาอาชีวศึกษา สถาบันหรือสถานประกอบการเพื่อพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานการอาชีวศึกษา
(๑๐) แต่งตั้งคณะกรรมการ คณะอนุกรรมการ หรือบุคคลหนึ่งบุคคลใดเพื่อกระทำการใดอันอยู่ในอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการการอาชีวศึกษา
(๑๑) ออกข้อบังคับ ระเบียบ และประกาศคณะกรรมการการอาชีวศึกษาเพื่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้
(๑๒) ปฏิบัติการอื่นตามพระราชบัญญัตินี้หรือตามที่คณะรัฐมนตรีมอบหมาย
ก. มาตรา 6 ค. มาตรา 12
ข. มาตรา 13 ง. มาตรา 18
ตอบ ข. มาตรา 13
ก. โดยคำแนะนำของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
ข. โดยคำแนะนำของผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการการอาชีวศึกษา
ค. โดยคำแนะนำของสภาการศึกษา
ง. โดยคำแนะนำของคณะกรรมการการอาชีวศึกษา
ตอบ ง. โดยคำแนะนำของคณะกรรมการการอาชีวศึกษา
ก. กฎกระทรวง ค. พระราชบัญญัติ
ข. ประกาศกระทรวง ง. พระราชกฤษฎีกา
ตอบ ก. กฎกระทรวง
ก. สำนักงานผู้อำนวยการสถาบัน ค. ศูนย์
ข. สำนัก ง. กอง
ตอบ ง. กอง
มาตรา ๑๗ สถาบันอาจแบ่งส่วนราชการ ดังต่อไปนี้
(๑) สำนักงานผู้อำนวยการสถาบัน
(๒) วิทยาลัย
(๓) สำนัก
(๔) ศูนย์
สถาบันอาจให้มีส่วนราชการที่เรียกชื่ออย่างอื่นที่มีฐานะเทียบเท่าวิทยาลัยเพื่อดำเนินการตามวัตถุประสงค์ในมาตรา ๑๖ เป็นส่วนราชการของสถาบันอีกก็ได้
สำนักงานผู้อำนวยการสถาบันอาจแบ่งส่วนราชการเป็นฝ่ายหรือหน่วยงานที่เรียกชื่ออย่างอื่นที่มีฐานะเทียบเท่าฝ่าย
วิทยาลัยอาจแบ่งส่วนราชการเป็นคณะวิชา ภาควิชา แผนก หรือหน่วยงานที่เรียกชื่ออย่างอื่นที่มีฐานะเทียบเท่าคณะวิชาหรือภาควิชา
สำนัก หรือศูนย์ อาจแบ่งส่วนราชการเป็นแผนกหรือหน่วยงานที่เรียกชื่ออย่างอื่นที่มีฐานะเทียบเท่าแผนก
ก. ประกาศกระทรวง
ข. กฏกระทรวง
ค. ประกาศกระทรวงศึกษาธิการ
ง. ประกาศกระทรวงศึกษาธิการและประกาศในราชกิจจานุเบกษา
ตอบ ง.ประกาศกระทรวงศึกษาธิการและประกาศในราชกิจจานุเบกษา
ก. เงินผลประโยชน์ ค่าธรรมเนียม ค่าปรับ และค่าบริการต่างๆ ของสถาบัน
ข. เงินและทรัพย์สินซึ่งมีผู้อุทิศให้แก่สถาบัน
ค. รายได้หรือผลประโยชน์ที่ได้จากการลงทุนและจากทรัพย์สินของสถาบัน
ง. ถูกทุกข้อ
มาตรา ๒๐ นอกจากเงินที่กำหนดไว้ในงบประมาณแผ่นดิน สถาบันอาจมีรายได้ดังต่อไปนี้
(๑) เงินผลประโยชน์ ค่าธรรมเนียม ค่าปรับ และค่าบริการต่างๆ ของสถาบัน
(๒) เงินและทรัพย์สินซึ่งมีผู้อุทิศให้แก่สถาบัน
(๓) รายได้หรือผลประโยชน์ที่ได้จากการลงทุนและจากทรัพย์สินของสถาบัน
(๔) รายได้หรือผลประโยชน์ที่ได้จากการใช้ที่ราชพัสดุ ซึ่งสถาบันปกครอง ดูแลหรือใช้ประโยชน์
(๕) เงินอุดหนุนจากราชการส่วนท้องถิ่นหรือเอกชน หรือองค์กรระหว่างประเทศหรือเงินอุดหนุนอื่นที่สถาบันได้รับเพื่อใช้ในการดำเนินกิจการของสถาบัน
(๖) รายได้หรือผลประโยชน์อื่น
ก. 14 คน ค. ไม่เกิน 14 คน
ข. ไม่เกิน 12 คน ง. ไม่เกิน 15 คน
มาตรา ๒๓ ให้มีคณะกรรมการสภาสถาบันในสถาบันแต่ละแห่ง จำนวนไม่เกินสิบสี่คนประกอบด้วย
(๑) นายกสภาสถาบัน ซึ่งรัฐมนตรีแต่งตั้งโดยคำแนะนำของคณะกรรมการการอาชีวศึกษา
(๒) กรรมการสภาสถาบันโดยตำแหน่ง ได้แก่ ผู้อำนวยการสถาบัน
(๓) กรรมการสภาสถาบันจำนวนสี่คน ซึ่งเลือกจากบุคคลที่สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาเสนอ
(๔) กรรมการสภาสถาบันจำนวนสี่คน ซึ่งเลือกจากผู้ดำรงตำแหน่งผู้บริหารสถาบันจำนวนสองคน และครูหรือคณาจารย์ประจำที่มิได้เป็นผู้บริหารจำนวนสองคน
(๕) กรรมการสภาสถาบันผู้ทรงคุณวุฒิจำนวนสี่คน ซึ่งรัฐมนตรีแต่งตั้งจากบุคคลภายนอกสถาบันโดยคำแนะนำของกรรมการสภาสถาบันตาม (๓) และ (๔) ในจำนวนนี้จะต้องเป็นผู้ทรงคุณวุฒิจากภาคเอกชนจำนวนหนึ่งคนและจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่สถาบันหรือสถานศึกษาในสังกัดสถาบันนั้นตั้งอยู่จำนวนหนึ่งคน
ก. 2 ปี ค. 4 ปี
ข. 3 ปี ง. 5 ปี
ตอบ ค. 4 ปี
ก. อนุมัติการให้ปริญญา ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง และประกาศนียบัตรวิชาชีพ
ข. ส่งเสริม สนับสนุน กำกับ และดูแลระบบการประกันคุณภาพภายในของสถานศึกษาอาชีวศึกษา สถาบันหรือสถานประกอบการเพื่อพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานการอาชีวศึกษา
ค. อนุมัติแผนพัฒนาของสถาบันเกี่ยวกับการอาชีวศึกษาและการฝึกอบรมวิชาชีพของสถาบันให้สอดคล้องกับนโยบายการศึกษาของชาติ
ง. ให้ความเห็นชอบในการกำหนดตรา เครื่องหมาย หรือสัญลักษณ์ของสถาบัน
ตอบ ข. ส่งเสริม สนับสนุน กำกับ และดูแลระบบการประกันคุณภาพภายในของสถานศึกษาอาชีวศึกษา สถาบันหรือสถานประกอบการเพื่อพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานการอาชีวศึกษา
(ข้อ ข เป็นอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการการอาชีวศึกษา)
มาตรา ๒๕ สภาสถาบันมีอำนาจและหน้าที่ควบคุมดูแลกิจการทั่วไปของสถาบัน และโดยเฉพาะให้มีอำนาจและหน้าที่ ดังต่อไปนี้(๑) อนุมัติแผนพัฒนาของสถาบันเกี่ยวกับการอาชีวศึกษาและการฝึกอบรมวิชาชีพของสถาบันให้สอดคล้องกับนโยบายการศึกษาของชาติ
(๒) ออกข้อบังคับ ระเบียบ และประกาศของสถาบันเกี่ยวกับการดำเนินการของสถาบัน
(๓) พิจารณาการจัดตั้ง การรวม และการยุบเลิกส่วนราชการของสถาบันตามมาตรา ๑๗ รวมทั้งการแบ่งหน่วยงานภายในของส่วนราชการดังกล่าว
(๔) อนุมัติการรับสถานศึกษาอื่นหรือสถานประกอบการเข้าสมทบและการยกเลิกการสมทบของสถานศึกษาอื่นหรือสถานประกอบการดังกล่าว
(๕) พิจารณาให้ความเห็นชอบหลักสูตรการศึกษาของสถาบันให้สอดคล้องกับมาตรฐานที่คณะกรรมการการอาชีวศึกษากำหนด
(๖) อนุมัติการให้ปริญญา ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง และประกาศนียบัตรวิชาชีพ
(๗) พิจารณาและให้ความเห็นชอบในการเข้าร่วมดำเนินการจัดตั้งศูนย์วิจัย ห้องทดลองหรือห้องปฏิบัติการเพื่อพัฒนาการอาชีวศึกษาและการฝึกอบรมวิชาชีพกับสถานประกอบการหรือภาคเอกชนตามมาตรา ๕๓
(๘) กำกับมาตรฐานการศึกษา ควบคุมคุณภาพ ติดตาม ตรวจสอบและประเมินผลการจัดการศึกษาของสถาบันให้เป็นไปตามมาตรฐานการอาชีวศึกษาทุกระดับ
(๙) พิจารณาให้ความเห็นเกี่ยวกับการแต่งตั้งและถอดถอนศาสตราจารย์และศาสตราจารย์พิเศษ
(๑๐) พิจารณาเสนอแนะต่อรัฐมนตรีเพื่อแต่งตั้งหรือถอดถอนผู้อำนวยการสถาบัน
(๑๑) แต่งตั้งและถอดถอนรองผู้อำนวยการสถาบัน ผู้ช่วยผู้อำนวยการสถาบัน และอาจารย์พิเศษ
(๑๒) แต่งตั้งคณะกรรมการ คณะอนุกรรมการ หรือบุคคลใดบุคคลหนึ่งเพื่อพิจารณาและเสนอความเห็นในเรื่องหนึ่งเรื่องใด หรือเพื่อมอบหมายให้ปฏิบัติการอย่างหนึ่งอย่างใดอันอยู่ในอำนาจและหน้าที่ของสภาสถาบัน
(๑๓) กำหนดนโยบายเกี่ยวกับการจัดหารายได้ ออกข้อบังคับและวางระเบียบเกี่ยวกับการบริหารการเงินและทรัพย์สินของสถาบัน
(๑๔) ให้ความเห็นชอบในการกำหนดตรา เครื่องหมาย หรือสัญลักษณ์ของสถาบัน
(๑๕) ปฏิบัติหน้าที่อื่นที่เกี่ยวข้องกับสถาบันที่มิได้ระบุให้เป็นอำนาจหน้าที่ของผู้ใดโดยเฉพาะ
ก. อธิบดีสถาบัน ค. อธิการสถาบัน
ข. ผู้อำนวยการสถาบัน ง. รองผู้อำนวยการสถาบัน
ตอบ ข. ผู้อำนวยการสถาบัน
ก. 2 ปี ค. 4 ปี
ข. 3 ปี ง. 5 ปี
ตอบ ค. 4 ปี
มาตรา ๒๙ ผู้อำนวยการสถาบันมีวาระการดำรงตำแหน่งคราวละสี่ปี และอาจได้รับแต่งตั้งใหม่อีกได้ แต่จะดำรงตำแหน่งเกินสองวาระติดต่อกันมิได้
ก. สำเร็จการศึกษาไม่ต่ำกว่าชั้นปริญญาเอกหรือเทียบเท่าจากสถาบันอุดมศึกษา และได้ทำการสอนหรือมีประสบการณ์ด้านบริหารมาแล้วไม่น้อยกว่า 2 ปีในสถานศึกษาอาชีวศึกษา สถาบันหรือสถาบันอุดมศึกษาอื่น
ข. ได้รับปริญญาชั้นใดชั้นหนึ่งหรือเทียบเท่าจากสถาบันอุดมศึกษา และได้ทำการสอนหรือมีประสบการณ์ด้านการบริหารมาแล้วไม่น้อยกว่า 4 ปีในสถานศึกษาอาชีวศึกษา สถาบัน หรือสถาบันอุดมศึกษาอื่น
ค. เคยดำรงตำแหน่งกรรมการสภาสถาบันอุดมศึกษาอื่นมาแล้วรวมเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 2 ปี
ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
ก. บริหารกิจการของสถาบันให้เป็นไปตามกฎหมาย ข้อบังคับ ระเบียบ และประกาศของทางราชการและของสถาบัน จรรยาบรรณวิชาชีพ รวมทั้งนโยบายและวัตถุประสงค์ของสถาบัน
ข. ควบคุมดูแลบุคลากร การเงิน การพัสดุ สถานที่ และทรัพย์สินอื่นของสถาบันให้เป็นไปตามกฎหมาย ข้อบังคับ ระเบียบ และประกาศ ของทางราชการและของสถาบัน
ค. จัดทำแผนการดำเนินงาน แผนพัฒนาของสถาบัน งบประมาณประจำปี และตลอดจนติดตามการประเมินผลการดำเนินงานของสถาบัน
ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง.ถูกทุกข้อ
ก. ครู ค. ศาสตราจารย์
ข. อาจารย์ ง. ผู้ช่วยศาสตราจารย์
ตอบ ก. ครู
มาตรา ๓๘ คณาจารย์ประจำซึ่งสอนชั้นปริญญาในสถาบันมีตำแหน่งทางวิชาการ ดังต่อไปนี้
(๑) ศาสตราจารย์
(๒) รองศาสตราจารย์
(๓) ผู้ช่วยศาสตราจารย์
(๔) อาจารย์
ก. ศาสตราจารย์ ค. รองศาสตราจารย์
ข. ศาสตราจารย์พิเศษ ง. ผู้ช่วยศาสตราจารย์
ตอบ ข. ศาสตราจารย์พิเศษ
ก. ศาสตราจารย์ ใช้อักษรย่อ ศ. ค. ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ใช้อักษรย่อ ผศ.
ข. รองศาสตราจารย์ ใช้อักษรย่อ รศ. ง. ผู้ช่วยศาสตราจารย์พิเศษ ใช้อักษรย่อ ผศ. พิเศษ
ตอบ ง. ผู้ช่วยศาสตราจารย์พิเศษ ใช้อักษรย่อ ผศ. พิเศษ ที่ถูก คือ ผู้ช่วยศาสตราจารย์พิเศษ ใช้อักษรย่อ ผศ. (พิเศษ)
ก. พระราชกฤษฎีกา ค. ประกาศกระทรวง
ข. พระราชบัญญัติ ง. กฎกระทรวง
ตอบ ก. พระราชกฤษฎีกา
ก. มาตรา 13 ค. มาตรา 50
ข. มาตรา 49 ง. มาตรา 53
ตอบ ค. มาตรา 50
ก. เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ค. คณะกรรมการอาชีวศึกษา
ข. รัฐมาตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ง. คณะกรรมการสภาสถาบัน
ตอบ ก. เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา
ก. รายได้หรือผลประโยชน์อื่นของกองทุน
ข. ดอกผลและผลประโยชน์ที่เกิดจากกองทุน
ค. เงินหรือทรัพย์สินอื่นที่สถานประกอบการหรือเอกชนมอบให้แก่กองทุน หรือที่มีผู้บริจาคหรืออุทิศให้แก่กองทุน
ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
ก. การให้กู้ยืมแก่ผู้สำเร็จการศึกษาอาชีวศึกษาเพื่อใช้จ่ายในการประกอบอาชีพโดยอิสระ
ข. การดำเนินงานและสนับสนุนการพัฒนาคุณภาพเครื่องมือ อุปกรณ์ อาคารสถานที่ หลักสูตร กิจกรรม มาตรฐานสถานศึกษาและรูปแบบการศึกษาที่สอดคล้องกับมาตรฐานการศึกษาแห่งชาติ และการพัฒนาบุคลากร
ค. ค่าใช้จ่ายที่จำเป็นในการดำเนินการตามพระราชบัญญัติการอาชีวศึกษา พ.ศ.2551
ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
ก. ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 50,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ข. ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 50,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ค. ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 50,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ง. ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ตอบ ข. ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 50,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ก. ปลอม หรือทำเลียนแบบซึ่งตรา สัญลักษณ์ หรือเครื่องหมายของสถาบันไม่ว่าจะทำเป็นสีใดหรือทำด้วยวิธีใดๆ
ข. ใช้ตรา สัญลักษณ์ หรือเครื่องหมายของสถาบันปลอมหรือซึ่งทำเลียนแบบ
ค. ใช้ หรือทำให้ปรากฏซึ่งตรา สัญลักษณ์ เครื่องหมายของสถาบันที่วัตถุหรือสินค้าใดๆ โดยไม่ได้รับอนุญาต
ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
ภารกิจและนโยบายสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา
1. สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาได้กำหนดยุทธศาสตร์ไว้จำนวนเท่าใด
ก. 5 ยุทธศาสตร์ 30 กลยุทธ์ ค. 6 ยุทธศาสตร์ 30 กลยุทธ์
ข. 5 ยุทธศาสตร์ 35 กลยุทธ์ ง. 6 ยุทธศาสตร์ 35 กลยุทธ์
ตอบ ง. 6 ยุทธศาสตร์ 35 กลยุทธ์
ก. ยุทธศาสตร์ที่ 5 ค. ยุทธศาสตร์ที่ 4
ข. ยุทธศาตร์ที่ 1 ง. ยุทธศาสตร์ที่ 2
ตอบ ข. ยุทธศาตร์ที่ 1
3. ข้อใด ไม่ใช่ กลยุทธ์ในการพัฒนาการจัดการอาชีวศึกษาและการฝึกอบรมวิชาชีพให้มีคุณภาพมาตรฐาน
ก. พัฒนาศูนย์กำลังคนอาชีวศึกษา
ข. พัฒนาครูและบุคลากรอาชีวศึกษา
ค. เร่งรัดพัฒนาคุณภาพและสมรรถนะผู้เรียน
ง. พัฒนาสถานศึกษาและสถาบันการอาชีวศึกษาให้ได้มาตรฐาน มีความเป็นเลิศทางวิชาชีพ
ตอบ ก. พัฒนาศูนย์กำลังคนอาชีวศึกษา
ก. ยุทธศาสตร์ที่ 4 ค. ยุทธศาสตร์ที่ 6
ข. ยุทธศาตร์ที่ 3 ง. ยุทธศาสตร์ที่ 2
ตอบ ง. ยุทธศาสตร์ที่ 2
5. ข้อใดคือกลยุทธ์ในการสร้างเครือข่ายและส่งเสริมความร่วมมือ
ก. พัฒนาฐานข้อมูลความร่วมมือ
ข. ส่งเสริมและสนับสนุนความร่วมมือในการจัดอาชีวศึกษาและการฝึกอบรมวิชาชีพทั้งในและต่างประเทศ
ค. สร้างความเข้มแข็งในการสร้างเครือข่ายและความร่วมมือในการจัดอาชีวศึกษาและการฝึกอบรมวิชาชีพ
ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
ก. ยุทธศาสตร์ที่ 4 ค. ยุทธศาสตร์ที่ 6
ข. ยุทธศาตร์ที่ 3 ง. ยุทธศาสตร์ที่ 2
ตอบ ข. ยุทธศาตร์ที่ 3
7. ข้อใด ไม่ใช่ กลยุทธ์ในการพัฒนาระบบบริหารจัดการอาชีวศึกษา
ก. จัดและพัฒนาโครงสร้างการบริหารงานให้เป็นไปตาม ก.ม.การอาชีวศึกษาและก.ม.อื่นที่เกี่ยวข้อง
ข. ประสาน ส่งเสริมและสนับสนุน การจัดการอาชีวศึกษาและการฝึกอบรมวิชาชีพของสถานศึกษาเอกชน สถานประกอบการและเครือข่าย
ค. พัฒนากฎหมาย กฎ ระเบียบ ข้อบังคับ
ง. กระจายอำนาจการบริหารจัดการสู่สถานศึกษาและสถาบัน
ตอบ ข.ประสาน ส่งเสริมและสนับสนุน การจัดการอาชีวศึกษาและการฝึกอบรมวิชาชีพของสถานศึกษาเอกชน สถานประกอบการและเครือข่าย
ก. ยุทธศาสตร์ที่ 4 ค. ยุทธศาสตร์ที่ 6
ข. ยุทธศาตร์ที่ 3 ง. ยุทธศาสตร์ที่ 2
ตอบ ก. ยุทธศาสตร์ที่ 4
9. ข้อใดคือกลยุทธ์ในการขยายโอกาสทางการศึกษาวิชาชีพและส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต
ก. ส่งเสริมและพัฒนาการจัดอาชีวศึกษาและการฝึกอบรมวิชาชีพในเขตชายแดนภาคใต้
ข. ส่งเสริมและพัฒนาการจัดอาชีวศึกษาและการฝึกอบรมวิชาชีพในพื้นที่ชายแดน และเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจ
ค. ส่งเสริมและพัฒนาการจัดอาชีวศึกษาและการฝึกอบรมวิชาชีพตามโครงการพระราชดำริ
ง. ส่งเสริมให้มีการสร้างรายได้ระหว่างเรียน
ตอบ ง.ส่งเสริมให้มีการสร้างรายได้ระหว่างเรียน
ก. ยุทธศาสตร์ที่ 4 ค. ยุทธศาสตร์ที่ 5
ข. ยุทธศาตร์ที่ 6 ง. ยุทธศาสตร์ที่ 2
ตอบ ค. ยุทธศาสตร์ที่ 5
11. ข้อใดคือการจัดอาชีวศึกษาเพื่อสร้างเสริมความมั่นคงของรัฐ
ก. ส่งเสริมและพัฒนาการจัดอาชีวศึกษาร่วมกับประเทศเพื่อนบ้านเพื่อสร้างความเข้าใจอันดี
ข. ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพให้ประชาชนในการสร้างงานสร้างรายได้
ค. ส่งเสริมและพัฒนาการจัดอาชีวศึกษาและการฝึกอบรมวิชาชีพในเขตชายแดนภาคใต้
ง. ถูกทั้ง ก และ ค
ตอบ ง. ถูกทั้ง ก และ ค
ก. ยุทธศาสตร์ที่ 6 ค. ยุทธศาสตร์ที่ 5
ข. ยุทธศาตร์ที่ 1 ง. ยุทธศาสตร์ที่ 2
ตอบ ก. ยุทธศาสตร์ที่ 6
13. ข้อใด ไม่ใช่ กลยุทธ์ในการสนับสนุนการวิจัยและพัฒนาถ่ายทอดองค์ความรู้และเทคโนโลยี
ก. พัฒนาระบบบริหารจัดการตามหลักเกณฑ์คุณภาพการบริหารจัดการภาครัฐและธรรมาภิบาล
ข. พัฒนาระบบบริหารจัดการ เครือข่ายงานวิจัย และการจัดการความรู้อาชีวศึกษา ทั้งในประเทศและระดับนานาชาติ
ค. ส่งเสริมการนำองค์ความรู้ เทคโนโลยี และนวัตกรรม ไปใช้พัฒนาคุณภาพการบริหารจัดการและการเรียนการสอน
ง. ส่งเสริมให้นำความรู้ เทคโนโลยี สิ่งประดิษฐ์ และนวัตกรรม ไปใช้พัฒนาอาชีพ จดสิทธิบัตร และพัฒนาสู่เชิงพาณิชย์
ตอบ ก. พัฒนาระบบบริหารจัดการตามหลักเกณฑ์คุณภาพการบริหารจัดการภาครัฐและธรรมาภิบาล