แนวข้อสอบ
พระราชบัญญัติการเดินอากาศ พ.ศ. ๒๔๙๗ และที่แก้ไขเพิ่มเติม
*********************************************************
1. พระราชบัญญัติการเดินอากาศ ที่แก้ไขเพิ่มเติมในปัจจุบันเป็นฉบับที่เท่าใด
ก. ฉบับที่ 9 ค. ฉบับที่ 5
ข. ฉบับที่ 10 ง. ฉบับที่ 11
ตอบ ง. ฉบับที่ 11 ได้แก่
พระราชบัญญัติการเดินอากาศ พ.ศ. ๒๔๙๗
พระราชบัญญัติการเดินอากาศ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๔๙๘
พระราชบัญญัติการเดินอากาศ (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๐๒
พระราชบัญญัติการเดินอากาศ (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๐๔
พระราชบัญญัติการเดินอากาศ (ฉบับที่ ๖) พ.ศ. ๒๕๑๔
พระราชบัญญัติการเดินอากาศ (ฉบับที่ ๗) พ.ศ. ๒๕๒๑
พระราชบัญญัติการเดินอากาศ (ฉบับที่ ๘) พ.ศ. ๒๕๒๕
พระราชบัญญัติการเดินอากาศ (ฉบับที่ ๙) พ.ศ. ๒๕๓๔
พระราชบัญญัติการเดินอากาศ (ฉบับที่ ๑๐) พ.ศ. ๒๕๔๒
พระราชบัญญัติการเดินอากาศ (ฉบับที่ ๑๑) พ.ศ. ๒๕๕๑
2. พระราชบัญญัติการเดินอากาศ (ฉบับที่ ๑๑) อยู่ใน พ.ศ.ใด
ก. พ.ศ.2542 ค. พ.ศ.2534
ข. พ.ศ.2551 ง. พ.ศ.2525
ตอบ ข. พ.ศ.2551
3. ข้อใดคือเหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติการเดินอากาศ (ฉบับที่ ๑๑) พ.ศ. ๒๕๕๑
ก. ที่รัฐบาลเห็นสมควรให้เอกชนไม่ว่าจะเป็นบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลสามารถใช้อากาศยานส่วนบุคคลได้
ข. รัฐบาลมีนโยบายที่จะแปรสภาพรัฐวิสาหกิจให้เป็นองค์กรธุรกิจในรูปบริษัทจำกัดหรือบริษัทมหาชนจำกัดเพื่อให้ภาคเอกชนได้เข้ามามีส่วนร่วมในการลงทุน
ค. พระราชบัญญัติการเดินอากาศ พ.ศ. ๒๔๙๗ ได้ใช้บังคับมาเป็นเวลานานแล้ว มีบทบัญญัติไม่เป็นไปตามอนุสัญญาว่าด้วยการบินพลเรือนระหว่างประเทศ
ง. การกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมขั้นสูงไว้ท้ายพระราชบัญญัติการเดินอากาศ พ.ศ. ๒๔๙๗ ทำให้ไม่สะดวกในการปรับปรุงอัตราค่าธรรมเนียมให้เหมาะสมกับภาวะเศรษฐกิจ
ตอบ ค. พระราชบัญญัติการเดินอากาศ พ.ศ. ๒๔๙๗ ได้ใช้บังคับมาเป็นเวลานานแล้ว มีบทบัญญัติไม่เป็นไปตามอนุสัญญาว่าด้วยการบินพลเรือนระหว่างประเทศ
เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ โดยที่พระราชบัญญัติการเดินอากาศ พ.ศ. ๒๔๙๗ ได้ใช้บังคับมาเป็นเวลานานแล้ว มีบทบัญญัติไม่เป็นไปตามอนุสัญญาว่าด้วยการบินพลเรือนระหว่างประเทศ(ConventiononInternationalCivilAviation) ซึ่งประเทศไทยเป็นภาคี และมาตรฐานสากลของประเทศต่าง ๆ สมควรกำหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการควบคุมการผลิตอากาศยานและชิ้นส่วนของอากาศยานและให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจออกข้อกำหนดและคำสั่งความสมควรเดินอากาศให้ครอบคลุมเรื่องดังกล่าวตลอดจนเพิ่มเติมหลักเกณฑ์ในการควบคุมและรับรองการดำเนินการสนามบินสาธารณะ รวมทั้งกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการจัดเก็บและการนำส่งเงินค่าบริการผู้โดยสารขาออก ให้สอดคล้องกับอนุสัญญาและมาตรฐานสากล ทั้งนี้ เพื่อขยายโอกาสทางด้านอุตสาหกรรมการบินของประเทศไทย จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้
4. พระราชบัญญัติการเดินอากาศ พ.ศ. ๒๔๙๗ ให้ไว้ ณ วันใด
ก. ๑ กันยายน ๒๔๙๗ ค. ๓ กันยายน ๒๔๙๗
ข. ๒ กันยายน ๒๔๙๗ ง. ๔ กันยายน ๒๔๙๗
ตอบ ก. ๑ กันยายน ๒๔๙๗
5. พระราชบัญญัติการเดินอากาศ พ.ศ. ๒๔๙๗บังคับใช้เมื่อพ้นกำหนดกี่วัน นับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษา
ก. 90 วัน ค. 60 วัน
ข. 30 วัน ง. 180 วัน
ตอบ ก. 90 วัน
6. พระราชบัญญัติการเดินอากาศ พ.ศ. ๒๔๙๗ มีกี่หมวด กี่มาตรา
ก. 8 หมวด 120 มาตรา ค. 9 หมวด 120 มาตรา
ข. 8 หมวด 126 มาตรา ง. 9 หมวด 126 มาตรา
ตอบ ง. 9 หมวด 126 มาตรา
7. พระราชบัญญัติการเดินอากาศ พ.ศ. ๒๔๙๗ ไม่ใช้แก่การเดินอากาศในราชการใด
ก. ราชการทหาร ค. ราชการส่วนอื่นตามที่กำหนดในกฎกระทรวง
ข. ราชการตำรวจ ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
8. อากาศยานซึ่งใช้หรือมุ่งหมายสำหรับใช้เพื่อประโยชน์ในกิจการอันมิใช่เพื่อบำเหน็จเป็นทางค้า คือข้อใด
ก. อากาศยาน ค. อากาศยานต่างประเทศ
ข. อากาศยานขนส่ง ง. อากาศยานส่วนบุคคล
ตอบ ง. อากาศยานส่วนบุคคล
9. “บริภัณฑ์” หมายความว่าอะไร
ก. ชิ้นส่วนที่ผลิตขึ้นโดยได้รับการรับรองมาตรฐานตามกฎหมาย
ข. กลอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับการขับเคลื่อนอากาศยานโดยมีชุดใบครีบติดกับเพลาขับของเครื่องยนต์
ค. เครื่องที่ใช้หรือมุ่งหมายสำหรับใช้ในการขับเคลื่อนอากาศยาน
ง. เครื่องวัด กลไก ชิ้นส่วน อุปกรณ์ และส่วนประกอบที่ใช้หรือมุ่งหมายที่จะใช้ในการทำงานหรือในการควบคุมอากาศยานในระหว่างการบิน
ตอบ ง. เครื่องวัด กลไก ชิ้นส่วน อุปกรณ์ และส่วนประกอบที่ใช้หรือมุ่งหมายที่จะใช้ในการทำงานหรือในการควบคุมอากาศยานในระหว่างการบิน
10. ข้อใด ไม่ใช่“เครื่องยนต์”
ก. ใบพัด
ข. ชิ้นส่วน อุปกรณ์ และส่วนประกอบของเครื่องยนต์
ค. เครื่องที่ใช้หรือมุ่งหมายสำหรับใช้ในการขับเคลื่อนอากาศยาน
ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ก. ใบพัด
11. “ผู้ควบคุมอากาศยาน” หมายความว่าอย่างไร
ก. ผู้อำนวยการหรือผู้จัดการซึ่งมีอำนาจหน้าที่รับผิดชอบบริหารจัดการสนามบินอนุญาตหรือที่ขึ้นลงชั่วคราวอนุญาตที่เปิดให้บริการแก่สาธารณะ
ข. นักบินที่ผู้ดำเนินการเดินอากาศ
ค. ผู้จดทะเบียนอากาศยานกำหนดให้เป็นผู้ควบคุมและรับผิดชอบความปลอดภัยสำหรับการบินแต่ละเที่ยวบิน
ง. ถูกทั้ง ข และ ค
ตอบ ถูกทั้ง ข และ ค
12. ใครเป็นผู้รักษาการตามพระราชบัญญัติการเดินอากาศ พ.ศ. ๒๔๙๗ และที่แก้ไขเพิ่มเติม
ก. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ค. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์
ข. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ง. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน
ตอบ ข. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม
13. ข้อใดคืออำนาจหน้าที่ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม
ก. กำหนดค่าธรรมเนียม
ข. กำหนดอัตราขั้นสูงสำหรับค่าโดยสารและค่าระวางสำหรับอากาศยานขนส่ง
ค. กำหนดอัตราขั้นสูงสำหรับค่าบริการในสนามบินอนุญาตซึ่งให้บริการแก่สาธารณะ
ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง.ถูกทุกข้อ
มาตรา ๖ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมรักษาการตามพระราชบัญญัตินี้ และให้มีอำนาจแต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่ กับมีอำนาจออกกฎกระทรวงในเรื่องดังต่อไปนี้
(๑) กำหนดค่าธรรมเนียม ไม่เกินอัตราท้ายพระราชบัญญัตินี้
(๒) กำหนดอัตราขั้นสูงสำหรับค่าโดยสารและค่าระวางสำหรับอากาศยานขนส่งตามมาตรา ๒๐
(๓) กำหนดอัตราขั้นสูงสำหรับค่าบริการในสนามบินอนุญาตซึ่งให้บริการแก่สาธารณะตามมาตรา ๕๖ (๒) และ (๓)
(๔) ยกเว้นค่าธรรมเนียมตาม (๑) ค่าโดยสารหรือค่าระวางสำหรับอากาศยานขนส่งตามมาตรา ๒๐ ค่าบริการ ค่าภาระ หรือเงินตอบแทนอื่นใดตามมาตรา ๕๖ หรือค่าบริการเครื่องอำนวยความสะดวกในการเดินอากาศตามมาตรา ๕๗
(๕) กำหนดกิจการอื่นเพื่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้
14. ใครเป็นประธานในคณะกรรมการการบินพลเรือน
ก. ปลัดกระทรวงคมนาคม ค. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม
ข. ผู้บัญชาการทหารอากาศ ง. อธิบดีกรมการขนส่งทางอากาศ
ตอบ ค. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม
มาตรา ๗ ให้มีคณะกรรมการการบินพลเรือนคณะหนึ่ง ประกอบด้วย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานกรรมการ ปลัดกระทรวงคมนาคม ผู้บัญชาการทหารอากาศ และกรรมการอื่นอีกเจ็ดคนซึ่งคณะรัฐมนตรีแต่งตั้ง เป็นกรรมการ และให้อธิบดี เป็นกรรมการและเลขานุการ
15. ข้อใด ไม่ใช่ อำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการการบินพลเรือน
ก. ยกเว้นค่าธรรมเนียม
ข. กำหนดนโยบายและพิจารณาอนุมัติแผนอำนวยความสะดวก
ค. รับปรึกษาและให้คำแนะนำเกี่ยวกับการบินพลเรือนแก่รัฐมนตรี
ง. พิจารณากำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการคำนวณค่าโดยสารและค่าระวางสำหรับอากาศยานขนส่ง
ตอบ ก. ยกเว้นค่าธรรมเนียม
มาตรา ๑๕ ให้คณะกรรมการการบินพลเรือนมีอำนาจหน้าที่ตามที่ระบุไว้ในพระราชบัญญัตินี้และในเรื่องต่อไปนี้
(๑) กำหนดนโยบายและพิจารณาอนุมัติแผนอำนวยความสะดวก แผนรักษาความปลอดภัย และแผนนิรภัยในการบินพลเรือนแห่งชาติ รวมทั้งแผนแม่บทการจัดตั้งสนามบินพาณิชย์ของประเทศ
(๒) รับปรึกษาและให้คำแนะนำเกี่ยวกับการบินพลเรือนแก่รัฐมนตรี
(๓) พิจารณากำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการคำนวณค่าโดยสารและค่าระวางสำหรับอากาศยานขนส่งตามมาตรา ๒๐
(๔) พิจารณากำหนดอัตราและเงื่อนไขการเรียกเก็บค่าบริการ ค่าภาระ หรือเงินตอบแทนอื่นใดในสนามบินอนุญาตซึ่งให้บริการแก่สาธารณะตามมาตรา ๕๖ ซึ่งต้องไม่เกินอัตราที่กำหนดในกฎกระทรวง
(๕) พิจารณากำหนดเงื่อนไขการเรียกเก็บและอนุมัติอัตราค่าบริการ เครื่องอำนวยความสะดวกในการเดินอากาศซึ่งให้บริการแก่สาธารณะตามมาตรา ๕๗
(๖) ออกข้อบังคับตามพระราชบัญญัตินี้และตามอนุสัญญา
16. ข้อใดคืออำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการเทคนิค
ก. ออกประกาศกำหนดส่วนประกอบอื่นของอากาศยานเป็นส่วนประกอบสำคัญของอากาศยาน
ข. ให้คำแนะนำและคำปรึกษาแก่อธิบดีในเรื่องเทคนิค
ค. ออกประกาศให้ใช้มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเป็นมาตรฐานชิ้นส่วนของอากาศยาน
ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง.ถูกทุกข้อ
มาตรา ๑๕/๔ ให้คณะกรรมการเทคนิคมีอำนาจหน้าที่ ดังต่อไปนี้
(๑) ออกประกาศกำหนดส่วนประกอบอื่นของอากาศยานเป็นส่วนประกอบสำคัญของอากาศยานตามมาตรา ๔
(๒) ออกข้อกำหนด ดังต่อไปนี้
(ก) มาตรฐานอากาศยานตามมาตรา ๓๔ วรรคหนึ่ง
(ข) มาตรฐานอากาศยานที่ผลิตเพื่อส่งออกตามมาตรา ๓๕
(ค) ระบุประเภทอากาศยานและส่วนประกอบสำคัญของอากาศยานที่ผลิตตามแบบโดยไม่ต้องมีใบรับรองแบบตามมาตรา ๓๖ วรรคสาม
(ง) หลักเกณฑ์และวิธีการทดสอบโดยการบินทดลองหรือการทดสอบอย่างอื่นของอากาศยานต้นแบบหรือต้นแบบส่วนประกอบสำคัญของอากาศยานต้นแบบตามมาตรา ๔๑/๒
(จ) หลักเกณฑ์การใช้งานได้อย่างปลอดภัยของอากาศยานหรือส่วนประกอบสำคัญของอากาศยานตามมาตรา ๔๑/๔
(ฉ) หลักเกณฑ์การตรวจสอบการแก้ไขดัดแปลงอากาศยานหรือส่วนประกอบสำคัญของอากาศยานตามมาตรา ๔๑/๕ มาตรา ๔๑/๖ และมาตรา ๔๑/๗
(ช) การแก้ไขดัดแปลงแบบอากาศยาน แบบส่วนประกอบสำคัญของอากาศยานแบบชิ้นส่วนรับรองคุณภาพ และแบบบริภัณฑ์ใดเป็นการแก้ไขในสาระสำคัญหรือไม่ใช่สาระสำคัญตามมาตรา ๔๑/๘
(๓) ออกประกาศให้ใช้มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเป็นมาตรฐานชิ้นส่วนของอากาศยานตามมาตรา ๓๔ วรรคสอง
(๔) มอบหมายให้อธิบดีออกข้อกำหนดในรายละเอียดเกี่ยวกับมาตรฐานอากาศยานและให้ความเห็นชอบในข้อกำหนดดังกล่าวตามมาตรา ๓๔ วรรคห้า
(๕) ให้คำแนะนำแก่รัฐมนตรีเกี่ยวกับบุคลากรที่มีความรู้และความชำนาญเพียงพอในการผลิตอากาศยานของผู้ขอรับใบอนุญาตผลิตอากาศยานตามมาตรา ๔๑/๒๒ (๓)
(๖) กำหนดการบำรุงรักษาอากาศยาน สำหรับอากาศยานที่ไม่มีใบรับรองแบบตามมาตรา ๔๑/๖๙ วรรคสอง (๒)
(๗) ให้คำแนะนำและคำปรึกษาแก่อธิบดีในเรื่องเทคนิค เพื่อการปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้
17. หน่วยงานที่มีหน้าที่รับผิดชอบเป็นหน่วยธุรการของคณะกรรมการการบินพลเรือน คณะกรรมการเทคนิค และคณะกรรมการสอบสวน คือข้อใด
ก. กรมการขนส่งทางอากาศ ค. บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน)
ข. กรมการบินพลเรือน ง. บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน)
ตอบ ก. กรมการขนส่งทางอากาศ
18. ห้ามมิให้ผู้ใดนำอากาศยานทำการบิน เว้นแต่มีสิ่งใดอยู่กับอากาศยานนั้น
ก. ใบสำคัญการจดทะเบียน
ข. สมุดปูมเดินทาง
ค. เครื่องหมายสัญชาติและทะเบียน และแผ่นแสดงเครื่องหมายอากาศยาน
ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
มาตรา ๑๖ ห้ามมิให้ผู้ใดนำอากาศยานทำการบิน เว้นแต่มีสิ่งเหล่านี้อยู่กับอากาศยานนั้น คือ
(๑) ใบสำคัญการจดทะเบียน
(๒) เครื่องหมายสัญชาติและทะเบียน และแผ่นแสดงเครื่องหมายอากาศยาน
(๓) ใบสำคัญสมควรเดินอากาศ
(๔) สมุดปูมเดินทาง
(๕) ใบอนุญาตผู้ประจำหน้าที่แต่ละคน
(๖) ใบอนุญาตเครื่องวิทยุสื่อสาร ถ้ามีเครื่องวิทยุสื่อสาร
(๗) บัญชีแสดงรายชื่อผู้โดยสาร ในกรณีที่เป็นการบินระหว่างประเทศที่มีการบรรทุกผู้โดยสาร
(๘) บัญชีแสดงรายการสินค้า ในกรณีที่เป็นการบินระหว่างประเทศที่มีการบรรทุกสินค้า
(๙) สิ่งอื่นตามที่กำหนดในกฎกระทรวง
19. จากข้อ 16 ไม่ใช้บังคับแก่อากาศยานใด
ก. อากาศยานทหารต่างประเทศ
ข. อากาศยานที่ทำการบินทดลองภายใต้เงื่อนไข ซึ่งพนักงานเจ้าหน้าที่กำหนด
ค. อากาศยานอื่นตามที่กำหนดในกฎกระทรวง
ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง.ถูกทุกข้อ
20. ข้อใดกล่าวถูกต้อง
ก. อากาศยานต้องบินตามเส้นทางบินที่กำหนดในกฎกระทรวง
ข. อากาศยานต้องปฏิบัติตามข้อบังคับของคณะกรรมการการบินพลเรือน
ค. การขนส่งทางอากาศเพื่อการพาณิชย์เป็นบริการสาธารณะ
ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
มาตรา ๑๗ ห้ามมิให้อากาศยานใช้ที่หนึ่งที่ใดเป็นที่ขึ้นลงนอกจากสนามบินอนุญาต หรือที่ขึ้นลงชั่วคราวของอากาศยานที่ได้รับอนุญาตหรือที่รัฐมนตรีประกาศกำหนด
มาตรา ๑๘ อากาศยานต้องบินตามเส้นทางบินที่กำหนดในกฎกระทรวง
มาตรา ๑๙ อากาศยานต้องปฏิบัติตามข้อบังคับของคณะกรรมการการบินพลเรือน
มาตรา ๒๐ การขนส่งทางอากาศเพื่อการพาณิชย์เป็นบริการสาธารณะ
21. ใครเป็นผู้กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการคำนวณค่าโดยสารและค่าระวางของผู้ประกอบการอากาศยานขนส่ง
ก. คณะกรรมการเทคนิค ค. อธิบดีกรมการขนส่งทางอากาศ
ข. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ง. คณะกรรมการการบินพลเรือน
ตอบ ง. คณะกรรมการการบินพลเรือน
22. ข้อใดคือคุณสมบัติของผู้ซึ่งขอจดทะเบียนอากาศยาน
ก. เป็นบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลที่มีสัญชาติไทย
ข. บุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลก็ตามต้องมีสัญชาติไทย
ค. เป็นผู้มีสิทธิครอบครองอากาศยานที่ขอจดทะเบียนและได้รับอนุญาตจากรัฐมนตรีให้จดทะเบียนได้
ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
มาตรา ๓๐ ภายใต้บังคับมาตรา ๓๑ ผู้ซึ่งขอจดทะเบียนอากาศยานตามความในพระราชบัญญัตินี้ได้ต้องเป็นเจ้าของอากาศยานที่ขอจดทะเบียนหรือถ้ามิได้เป็นเจ้าของต้องเป็นผู้มีสิทธิครอบครองอากาศยานที่ขอจดทะเบียนและได้รับอนุญาตจากรัฐมนตรีให้จดทะเบียนได้
มาตรา ๓๑ ผู้ซึ่งขอจดทะเบียนอากาศยานจะเป็นบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลก็ตามต้องมีสัญชาติไทย
23. ในกรณีที่ขอจดทะเบียนอากาศยานเป็นห้างหุ้นส่วนจำกัด ทุนของห้างหุ้นส่วนต้องไม่น้อยกว่าร้อยละ เท่าใด ของบุคคลธรรมดาซึ่งมีสัญชาติไทย
ก. ร้อยละ 30 ค. ร้อยละ 51
ข. ร้อยละ 42 ง. ร้อยละ 61
ตอบ ค. ร้อยละ 51
24. ใบสำคัญการจดทะเบียนอากาศยานเป็นอันใช้ไม่ได้ ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้อง
ก. อากาศยานนั้นได้สูญหายไปเป็นเวลาเกินกว่า 3 เดือนแล้ว
ข. ใบสำคัญสมควรเดินอากาศของอากาศยานนั้นสิ้นอายุเกินกว่า 7 เดือนแล้ว
ค. อากาศยานนั้นได้รับความเสียหายมากจนไม่เหมาะสมที่จะใช้การต่อไปได้
ง. มีการเปลี่ยนแปลงกรรมสิทธิ์ของอากาศยานนั้นในกรณีที่เจ้าของเป็นผู้จดทะเบียน
ตอบ ข. ใบสำคัญสมควรเดินอากาศของอากาศยานนั้นสิ้นอายุเกินกว่า 7 เดือนแล้ว
มาตรา ๓๒ ใบสำคัญการจดทะเบียนอากาศยานเป็นอันใช้ไม่ได้ เมื่อ
(๑) มีการเปลี่ยนแปลงกรรมสิทธิ์ของอากาศยานนั้นในกรณีที่เจ้าของเป็นผู้จดทะเบียน หรือมีการเปลี่ยนแปลงสิทธิครอบครองอากาศยานนั้น ในกรณีที่ผู้มีสิทธิครอบครองเป็นผู้จดทะเบียน
(๒) ผู้จดทะเบียนอากาศยานนั้นขาดคุณสมบัติตามมาตรา ๓๑
(๓) ปรากฏว่าการเป็นเจ้าของหรือการเป็นผู้มีสิทธิครอบครองของผู้จดทะเบียนอากาศยานนั้นไม่เป็นไปตามที่แสดงไว้ในการจดทะเบียนว่ามีสิทธิเช่นนั้นในรายการขอจดทะเบียน
(๔) อากาศยานนั้นได้รับความเสียหายมากจนไม่เหมาะสมที่จะใช้การต่อไปได้
(๕) ใบสำคัญสมควรเดินอากาศของอากาศยานนั้นสิ้นอายุเกินกว่าหกเดือนแล้ว
(๖) อากาศยานนั้นได้สูญหายไปเป็นเวลาเกินกว่าสามเดือนแล้ว
25. มาตรฐานอากาศยาน ประกอบด้วยมาตรฐานใด
ก. มาตรฐานความสมควรเดินอากาศของอากาศยานหรือของส่วนประกอบสำคัญของอากาศยาน
ข. มาตรฐานอากาศยานเกี่ยวกับการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม
ค. มาตรฐานอื่นเพื่อประโยชน์แห่งความปลอดภัยในการเดินอากาศ
ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
มาตรา ๓๔ มาตรฐานอากาศยานให้เป็นไปตามที่กำหนดในข้อกำหนดของคณะกรรมการเทคนิค โดยให้ประกอบด้วยมาตรฐาน ดังต่อไปนี้
(๑) มาตรฐานความสมควรเดินอากาศของอากาศยานหรือของส่วนประกอบสำคัญของอากาศยาน รวมถึงมาตรฐานทางเทคนิคของบริภัณฑ์
(๒) มาตรฐานอากาศยานเกี่ยวกับการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม เช่น มาตรฐานมลพิษทางเสียง หรือมาตรฐานมลพิษทางอากาศ
(๓) มาตรฐานอื่นเพื่อประโยชน์แห่งความปลอดภัยในการเดินอากาศ
26. ผู้ใดประสงค์จะขอรับใบรับรองแบบอากาศยานหรือแบบส่วนประกอบสำคัญของอากาศยาน ให้ยื่นคำขอต่อใคร
ก. ปลัดกระทรวงคมนาคม ค. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม
ข. คณะกรรมการเทคนิค ง. อธิบดีกรมการขนส่งทางอากาศ
ตอบ ข. คณะกรรมการเทคนิค
27. ใบรับรองแบบเฉพาะ ออกให้สำหรับแบบอากาศยาน เพื่อใช้งานที่มีวัตถุประสงค์เฉพาะ ในข้อใด
ก. การทำฝนเทียม ค. การทำแผนที่ภาพถ่ายทางอากาศ
ข. การโปรยยาปราบศัตรูพืช ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
มาตรา ๓๗ ใบรับรองแบบอากาศยานหรือแบบส่วนประกอบสำคัญของอากาศยานมีดังต่อไปนี้
(๑) ใบรับรองแบบมาตรฐาน ออกให้สำหรับแบบอากาศยานหรือแบบส่วนประกอบสำคัญของอากาศยานที่เป็นไปตามมาตรฐานที่คณะกรรมการเทคนิคกำหนดตามมาตรา ๓๔
(๒) ใบรับรองแบบเฉพาะ ออกให้สำหรับแบบอากาศยาน เพื่อใช้งานที่มีวัตถุประสงค์เฉพาะ เช่น การทำฝนเทียม การโปรยยาปราบศัตรูพืช หรือการทำแผนที่ภาพถ่ายทางอากาศตามมาตรฐานที่คณะกรรมการเทคนิคกำหนดตามมาตรา ๓๔
28. เมื่ออธิบดีออกหนังสืออนุญาตให้ผู้ขอดำเนินการสร้างอากาศยานต้นแบบหรือต้นแบบส่วนประกอบสำคัญของอากาศยานจะต้องกำหนดระยะเวลาการสร้างให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลากี่ปี นับแต่วันที่ออกหนังสืออนุญาต
ก. ไม่เกิน 5 ปี ค. ไม่เกิน 7 ปี
ข. ไม่เกิน 10 ปี ง. ไม่เกิน 3 ปี
ตอบ ก. ไม่เกิน 5 ปี
มาตรา ๓๘ ผู้ใดประสงค์จะขอรับใบรับรองแบบอากาศยานหรือแบบส่วนประกอบสำคัญของอากาศยาน ให้ยื่นคำขอต่ออธิบดีตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดในกฎกระทรวง
เมื่ออธิบดีได้รับคำขอ ให้อธิบดีตรวจสอบเอกสารหลักฐานของผู้ขอและประเมินความเป็นไปได้ของแบบที่เสนอ วิธีดำเนินการ และความพร้อมในการสร้างอากาศยานต้นแบบหรือต้นแบบส่วนประกอบสำคัญของอากาศยาน ตลอดจนฐานะทางการเงิน บุคลากร สถานที่ และเครื่องมือที่จะใช้ในการสร้าง หากอธิบดีเห็นว่ามีความเป็นไปได้ ให้อธิบดีออกหนังสืออนุญาตให้ผู้ขอดำเนินการสร้างอากาศยานต้นแบบหรือต้นแบบส่วนประกอบสำคัญของอากาศยานดังกล่าวได้ โดยกำหนดระยะเวลาการสร้างให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลาไม่เกินห้าปีนับแต่วันที่ออกหนังสืออนุญาต
ในกรณีที่ผู้ขอไม่สามารถสร้างให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลาที่กำหนดตามวรรคสามผู้ขออาจขอขยายระยะเวลาการสร้างต่ออธิบดีได้อีกหนึ่งครั้ง และอธิบดีอาจอนุญาตให้ขยายระยะเวลาดังกล่าวได้ไม่เกินสองปี
29. ใบรับรองแบบต้องประกอบด้วยเอกสาร ใด
ก. แบบที่ออก
ข. ข้อจำกัดการใช้งานของอากาศยานหรือส่วนประกอบสำคัญของอากาศยาน
ค. ข้อจำกัดหรือเงื่อนไขอื่นที่เกี่ยวข้องกับแบบอากาศยานหรือแบบส่วนประกอบสำคัญของอากาศยาน
ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
มาตรา ๔๑/๓ ใบรับรองแบบตามมาตรา ๓๗ ให้เป็นไปตามแบบที่อธิบดีประกาศกำหนดโดยให้ระบุมาตรฐานต่าง ๆ ที่ใช้ในการออกใบรับรองแบบไว้ในใบรับรองแบบด้วย และในใบรับรองแบบต้องประกอบด้วยเอกสาร ดังต่อไปนี้
(๑) แบบที่ออก
(ก) ภาพร่างและข้อกำหนดรายละเอียด รวมทั้งบัญชีของภาพร่างและข้อกำหนดรายละเอียดที่จำเป็นในการใช้กำหนดรูปลักษณ์และลักษณะแผนแบบของอากาศยานหรือส่วนประกอบสำคัญของอากาศยาน ที่แสดงให้เห็นว่าเป็นไปตามมาตรฐานที่ใช้กับแบบดังกล่าว โดยให้ระบุมาตรฐานเฉพาะที่กำหนดตามพระราชบัญญัตินี้ และมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมที่คณะกรรมการเทคนิคประกาศให้ใช้กับอากาศยานได้ (ถ้ามี) ไว้ด้วย
(ข) ข้อมูลเกี่ยวกับมิติ วัสดุ และกระบวนการที่จำเป็นในการใช้กำหนดความแข็งแรงทางโครงสร้างของอากาศยานหรือส่วนประกอบสำคัญของอากาศยาน
(ค) ข้อจำกัดความสมควรเดินอากาศที่กำหนดเพื่อการคงความต่อเนื่องของความสมควรเดินอากาศสำหรับอากาศยานหรือส่วนประกอบสำคัญของอากาศยาน
(๒) ข้อจำกัดการใช้งานของอากาศยานหรือส่วนประกอบสำคัญของอากาศยาน และ
(๓) ข้อจำกัดหรือเงื่อนไขอื่นที่เกี่ยวข้องกับแบบอากาศยานหรือแบบส่วนประกอบสำคัญของอากาศยาน
30. ใครมีอำนาจในการสั่งเพิกถอนใบรับรอง
ก. ปลัดกระทรวงคมนาคม ค. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม
ข. คณะกรรมการเทคนิค ง. อธิบดีกรมการขนส่งทางอากาศ
ตอบ ง. อธิบดีกรมการขนส่งทางอากาศ
31. การออกใบอนุญาตตามบทบัญญัติ ผู้ขอรับใบอนุญาตต้องเป็นนิติบุคคล และต้องมีทุนจดทะเบียนขั้นต่ำเท่าใด
ก. 100 ล้านบาท ค. 500 ล้านบาท
ข. 1,000 ล้านบาท ง. 300 ล้านบาท
ตอบ ค. 500 ล้านบาท
มาตรา ๔๑/๑๙ ในกรณีที่การออกใบอนุญาตตามบทบัญญัติในส่วนนี้กำหนดให้ผู้ขอรับใบอนุญาตต้องเป็นนิติบุคคล และต้องมีทุนจดทะเบียนขั้นต่ำตามที่รัฐมนตรีกำหนด หากทุนจดทะเบียนดังกล่าวมีจำนวนเกินกว่าห้าร้อยล้านบาท รัฐมนตรีโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการการบินพลเรือนมีอำนาจประกาศกำหนดให้มีการขออนุญาตเบื้องต้นต่ออธิบดีก่อนการดำเนินการจัดตั้งนิติบุคคลสำหรับกิจการนั้นได้
32. ข้อใด ไม่ใช่ คุณสมบัติของผู้ขอรับใบอนุญาตผลิตอากาศยาน
ก. มีเงินทุนเพียงพอแก่การผลิตอากาศยาน
ข. มีบุคลากรที่มีความรู้และความชำนาญเพียงพอในการผลิตอากาศยาน
ค. เป็นนิติบุคคล
ง. เป็นบุคคลธรรมดา
ตอบ ง. เป็นบุคคลธรรมดา
มาตรา ๔๑/๒๒ ภายใต้บังคับมาตรา ๔๑/๓๐ ผู้ขอรับใบอนุญาตผลิตอากาศยานต้องมีคุณสมบัติและลักษณะ ดังต่อไปนี้
(๑) เป็นนิติบุคคลตามมาตรา ๔๑/๒๓
(๒) มีเงินทุนเพียงพอแก่การผลิตอากาศยาน ตามจำนวนที่รัฐมนตรีประกาศกำหนดโดยคำแนะนำของคณะกรรมการการบินพลเรือน
(๓) มีบุคลากรที่มีความรู้และความชำนาญเพียงพอในการผลิตอากาศยานตามหลักเกณฑ์ที่รัฐมนตรีประกาศกำหนดโดยคำแนะนำของคณะกรรมการเทคนิค
(๔) ลักษณะอื่นตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่กำหนดในกฎกระทรวง
มาตรา ๔๑/๒๓ ผู้ขอรับใบอนุญาตผลิตอากาศยานต้องเป็นนิติบุคคลประเภทบริษัทจำกัดหรือบริษัทมหาชนจำกัดที่จดทะเบียนตามกฎหมายไทย และมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในราชอาณาจักร โดย
(๑) มีทุนจดทะเบียนตามจำนวนที่รัฐมนตรีประกาศกำหนดโดยคำแนะนำของคณะกรรมการการบินพลเรือน
(๒) มีทุนจดทะเบียนซึ่งเป็นของผู้มีสัญชาติไทยตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดในมาตรา ๔๑/๒๔
(๓) มีวัตถุประสงค์เพื่อการผลิตอากาศยาน หากมีวัตถุประสงค์เพื่อกิจการอื่นด้วยต้องเป็นวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวเนื่องกับการผลิตอากาศยานตามที่อธิบดีเห็นชอบ
(๔) อำนาจการบริหารกิจการอยู่ภายใต้การควบคุมของบุคคลผู้มีสัญชาติไทยตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดในมาตรา ๔๑/๒๕
(๕) กรรมการ ผู้จัดการ หรือบุคคลผู้มีอำนาจจัดการไม่มีลักษณะต้องห้ามตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดในมาตรา ๔๑/๒๖
(๖) ต้องได้รับหรือมีสิทธิในใบรับรองแบบอากาศยาน หรือมีสิทธิในแบบอากาศยานที่ไม่ต้องมีใบรับรองแบบตามมาตรา ๓๖ วรรคสาม ที่ประสงค์จะทำการผลิต
(๗) ไม่อยู่ในระหว่างถูกพักใช้ใบอนุญาตผลิตตามหมวดนี้ หรือถูกเพิกถอนใบอนุญาตผลิตตามหมวดนี้มายังไม่ครบสามปีนับแต่วันที่ถูกเพิกถอนใบอนุญาตผลิต
(๘) ลักษณะอื่นตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่กำหนดในกฎกระทรวง
ในกรณีที่เป็นการผลิตอากาศยานที่ไม่ต้องมีใบรับรองแบบตามมาตรา ๓๖ วรรคสาม ผู้ขออาจเป็นนิติบุคคลประเภทอื่นนอกจากที่กำหนดในวรรคหนึ่งก็ได้
33. ทุนของผู้ขอรับใบอนุญาตผลิตอากาศยาน ต้องเป็นของบุคคลผู้มีสัญชาติไทยไม่น้อยกว่าร้อยละเท่าใดของทุนทั้งหมด
ก. ร้อยละ 51 ค. ร้อยละ 47
ข. ร้อยละ 50 ง. ร้อยละ 60
ตอบ ก. ร้อยละ 51
มาตรา ๔๑/๒๔ ทุนของผู้ขอรับใบอนุญาตผลิตอากาศยาน ต้องเป็นของบุคคลผู้มีสัญชาติไทยไม่น้อยกว่าร้อยละห้าสิบเอ็ดของทุนทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นบุคคลแต่ละประเภทโดยลำพังหรือหลายประเภทรวมกัน ดังต่อไปนี้
(๑) บุคคลธรรมดาซึ่งมีสัญชาติไทย
(๒) กระทรวง ทบวง กรม หรือหน่วยงานของรัฐ
(๓) บริษัทจำกัดหรือบริษัทมหาชนจำกัด ซึ่งทุนไม่น้อยกว่าร้อยละห้าสิบเอ็ดของทุนทั้งหมดเป็นของบุคคลซึ่งมีสัญชาติไทย ทั้งนี้ หุ้นชนิดออกให้แก่ผู้ถือ ให้นับเป็นทุนของบุคคลซึ่งไม่มีสัญชาติไทย
(๔) ห้างหุ้นส่วนจำกัด ซึ่งผู้เป็นหุ้นส่วนจำพวกไม่จำกัดความรับผิดทั้งหมดมีสัญชาติไทยและทุนของห้างหุ้นส่วนนั้นไม่น้อยกว่าร้อยละห้าสิบเอ็ดเป็นของบุคคลซึ่งมีสัญชาติไทย
(๕) ห้างหุ้นส่วนสามัญที่จดทะเบียน ซึ่งผู้เป็นหุ้นส่วนทั้งหมดมีสัญชาติไทย
(๖) นิติบุคคลอื่น ตามที่กำหนดในกฎกระทรวง
34. ในกรณีใด ให้ถือว่าอำนาจการบริหารกิจการ ไม่อยู่ภายใต้การควบคุมของบุคคลผู้มีสัญชาติไทย
ก. มีกรรมการที่ไม่มีสัญชาติไทยตั้งแต่กึ่งหนึ่งขึ้นไป
ข. ผู้จัดการหรือผู้มีอำนาจจัดการไม่มีสัญชาติไทย
ค. มีการบริหารที่อยู่ภายใต้การครอบงำของผู้ไม่มีสัญชาติไทยตามลักษณะและเงื่อนไขที่กำหนดในกฎกระทรวง
ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
มาตรา ๔๑/๒๕ อำนาจการบริหารกิจการของผู้ขอรับใบอนุญาตผลิตอากาศยานต้องอยู่ภายใต้การควบคุมของบุคคลผู้มีสัญชาติไทยในกรณีดังต่อไปนี้ ให้ถือว่าอำนาจการบริหารกิจการ ไม่อยู่ภายใต้การควบคุมของบุคคลผู้มีสัญชาติไทย
(๑) มีกรรมการที่ไม่มีสัญชาติไทยตั้งแต่กึ่งหนึ่งขึ้นไป
(๒) ผู้จัดการหรือผู้มีอำนาจจัดการไม่มีสัญชาติไทย หรือ
(๓) มีการบริหารที่อยู่ภายใต้การครอบงำของผู้ไม่มีสัญชาติไทยตามลักษณะและเงื่อนไขที่กำหนดในกฎกระทรวง
35. ใบอนุญาตผลิตอากาศยานมีอายุกี่ปี
ก. ไม่เกิน 10 ปี ค. ไม่เกิน 30 ปี
ข. ไม่เกิน 20 ปี ง. ไม่เกิน 40 ปี
ตอบ ค. ไม่เกิน 30 ปี
36. การขอต่ออายุใบอนุญาตผลิตอากาศยาน ผู้ได้รับใบอนุญาตต้องยื่นคำขอต่ออธิบดีก่อนใบอนุญาตสิ้นอายุอย่างน้อยกี่วัน
ก. 30 วัน ค. 60 วัน
ข. 45 วัน ง. 90 วัน
ตอบ ค. 60 วัน
37. ใบอนุญาตผลิตส่วนประกอบสำคัญของอากาศยานมีอายุคราวละไม่เกินกี่ปี
ก. ไม่เกิน 10 ปี ค. ไม่เกิน 30 ปี
ข. ไม่เกิน 20 ปี ง. ไม่เกิน 40 ปี
ตอบ ข. ไม่เกิน 20 ปี
38. อธิบดีจะออกใบอนุญาตผลิตชิ้นส่วนรับรองคุณภาพให้แก่ผู้ขอได้ เมื่อปรากฏว่า
ก. ผู้ขอมีขีดความสามารถที่จะผลิตชิ้นส่วนรับรองคุณภาพได้ถูกต้องตามแบบที่ขออนุญาต
ข. แบบชิ้นส่วนรับรองคุณภาพที่ขออนุญาตผลิตมีมาตรฐานไม่ต่ำกว่ามาตรฐานทางเทคนิค
ค. ผลการทดสอบชิ้นส่วนรับรองคุณภาพเป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนดในแบบที่ขออนุญาต
ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
มาตรา ๔๑/๓๘ ผู้ขอรับใบอนุญาตผลิตชิ้นส่วนรับรองคุณภาพต้องเป็นนิติบุคคลตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดในกฎกระทรวง และให้นำความในมาตรา ๔๑/๒๒ (๒) (๓) และ (๔) และมาตรา ๔๑/๒๕ วรรคสาม มาใช้บังคับกับคุณสมบัติและลักษณะของผู้ขอโดยอนุโลม
มาตรา ๔๑/๓๙ ก่อนออกใบอนุญาตผลิตชิ้นส่วนรับรองคุณภาพ ให้อธิบดีตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ขอ แบบชิ้นส่วนรับรองคุณภาพที่ขออนุญาตผลิต ตลอดจนสถานที่และวิธีการผลิตของผู้ขอ
อธิบดีจะออกใบอนุญาตผลิตชิ้นส่วนรับรองคุณภาพให้แก่ผู้ขอได้ เมื่อปรากฏว่า
(๑) ผู้ขอมีคุณสมบัติและลักษณะตามมาตรา ๔๑/๓๘
(๒) ผู้ขอมีขีดความสามารถที่จะผลิตชิ้นส่วนรับรองคุณภาพได้ถูกต้องตามแบบที่ขออนุญาต
(๓) แบบชิ้นส่วนรับรองคุณภาพที่ขออนุญาตผลิต เป็นแบบที่เหมือนกับแบบชิ้นส่วนของอากาศยานหรือของส่วนประกอบสำคัญของอากาศยานตามแบบที่ได้รับการรับรอง หรือเป็นแบบที่ได้ออกแบบขึ้นใหม่ตามมาตรฐานความสมควรเดินอากาศที่ใช้ในการออกแบบอากาศยานหรือส่วนประกอบสำคัญของอากาศยานนั้น
(๔) แบบชิ้นส่วนรับรองคุณภาพที่ขออนุญาตผลิตมีมาตรฐานไม่ต่ำกว่ามาตรฐานทางเทคนิคตามมาตรา ๓๔ (๑)
(๕) ผลการทดสอบชิ้นส่วนรับรองคุณภาพเป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนดในแบบที่ขออนุญาต และ
(๖) ผู้ขอได้จัดให้มีการควบคุมคุณภาพการผลิตตามมาตรา ๔๑/๑๘ (๗)
39. ใบอนุญาตผลิตชิ้นส่วนรับรองคุณภาพมีอายุกี่ปี
ก. ไม่เกิน 10 ปี ค. ไม่เกิน 30 ปี
ข. ไม่เกิน 20 ปี ง. ไม่เกิน 40 ปี
ตอบ ก. ไม่เกิน 10 ปี
40. ห้ามมิให้ผู้ใดผลิตบริภัณฑ์ เว้นแต่จะได้รับใบอนุญาตผลิตบริภัณฑ์จากใคร
ก. คณะกรรมการการบินพลเรือน ค. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม
ข. คณะกรรมการเทคนิค ง. อธิบดีกรมการขนส่งทางอากาศ
ตอบ ง. อธิบดีกรมการขนส่งทางอากาศ
41. ผู้ขอรับใบอนุญาตใดจะต้องเป็นนิติบุคคล
ก. ใบอนุญาตผลิตบริภัณฑ์ ค. ใบอนุญาตผลิตอากาศยาน
ข. ใบอนุญาตผลิตชิ้นส่วนรับรองคุณภาพ ง.ถูกทุกข้อ
ตอบ ง.ถูกทุกข้อ
มาตรา ๔๑/๒๒ ภายใต้บังคับมาตรา ๔๑/๓๐ ผู้ขอรับใบอนุญาตผลิตอากาศยานต้องมีคุณสมบัติและลักษณะ ดังต่อไปนี้
(๑) เป็นนิติบุคคลตามมาตรา ๔๑/๒๓
มาตรา ๔๑/๓๘ ผู้ขอรับใบอนุญาตผลิตชิ้นส่วนรับรองคุณภาพต้องเป็นนิติบุคคลตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดในกฎกระทรวง และให้นำความในมาตรา ๔๑/๒๒ (๒) (๓) และ (๔) และมาตรา ๔๑/๒๕ วรรคสาม มาใช้บังคับกับคุณสมบัติและลักษณะของผู้ขอโดยอนุโลม
มาตรา ๔๑/๔๘ ผู้ขอรับใบอนุญาตผลิตบริภัณฑ์ตามมาตรา ๔๑/๔๗ ต้องเป็นนิติบุคคลตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดในกฎกระทรวง และให้นำความในมาตรา ๔๑/๒๒ (๒) (๓) และ (๔) มาใช้บังคับกับคุณสมบัติและลักษณะของผู้ขอโดยอนุโลม
42. ใบอนุญาตผลิตบริภัณฑ์ให้มีอายุคราวละไม่เกินกี่ปี
ก. ไม่เกิน 10 ปี ค. ไม่เกิน 30 ปี
ข. ไม่เกิน 20 ปี ง. ไม่เกิน 40 ปี
ตอบ ก. ไม่เกิน 10 ปี
43. อธิบดีมีอำนาจพักใช้ใบอนุญาตผลิตผลิตภัณฑ์ได้ในกรณีใด
ก. ผู้ได้รับใบอนุญาตไม่อาจควบคุมคุณภาพหรือรักษาขีดความสามารถในการผลิตผลิตภัณฑ์ให้ได้มาตรฐานตามที่กำหนดไว้
ข. ผู้ได้รับใบอนุญาตไม่ยินยอมให้อธิบดีหรือพนักงานเจ้าหน้าที่ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่หรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของอธิบดีหรือพนักงานเจ้าหน้าที่
ค. ผู้ได้รับใบอนุญาตขาดคุณสมบัติในสาระสำคัญที่ไม่อาจแก้ไขได้ หรือขาดคุณสมบัติอื่นและไม่แก้ไขภายในกำหนดระยะเวลาตามคำสั่งของอธิบดี
ง. ถูกเฉพาะข้อ ก และ ข
ตอบ ง. ถูกเฉพาะข้อ ก และ ข
มาตรา ๔๑/๕๘ อธิบดีมีอำนาจพักใช้ใบอนุญาตผลิตผลิตภัณฑ์ได้ ในกรณีดังต่อไปนี้
(๑) ผู้ได้รับใบอนุญาตไม่ยินยอมให้อธิบดีหรือพนักงานเจ้าหน้าที่ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่หรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของอธิบดีหรือพนักงานเจ้าหน้าที่ตามมาตรา ๔๑/๕๗
(๒) ผู้ได้รับใบอนุญาตไม่อาจควบคุมคุณภาพหรือรักษาขีดความสามารถในการผลิตผลิตภัณฑ์ให้ได้มาตรฐานตามที่กำหนดไว้ในหมวดนี้
44. อธิบดีมีอำนาจเพิกถอนใบอนุญาตผลิตผลิตภัณฑ์ได้ ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้อง
ก. ผู้ได้รับใบอนุญาตผลิตชิ้นส่วนรับรองคุณภาพหรือใบอนุญาตผลิตบริภัณฑ์ไม่แก้ไขแบบภายในระยะเวลาที่อธิบดีกำหนด
ข. ผู้ได้รับใบอนุญาตถูกพักใช้ใบอนุญาตเกินกว่า 3 ครั้ง ในช่วงเวลาสองปี
ค. ผู้ได้รับใบอนุญาตไม่อาจควบคุมคุณภาพหรือไม่อาจรักษาไว้ซึ่งขีดความสามารถในการผลิตผลิตภัณฑ์ให้ได้มาตรฐาน
ง. ผู้ได้รับใบอนุญาตขาดคุณสมบัติในสาระสำคัญที่ไม่อาจแก้ไขได้ หรือขาดคุณสมบัติอื่นและไม่แก้ไขภายในกำหนดระยะเวลาตามคำสั่งของอธิบดี
ตอบ ข. ผู้ได้รับใบอนุญาตถูกพักใช้ใบอนุญาตเกินกว่า 3 ครั้ง ในช่วงเวลาสองปี
มาตรา ๔๑/๕๙ อธิบดีมีอำนาจเพิกถอนใบอนุญาตผลิตผลิตภัณฑ์ได้ ในกรณีดังต่อไปนี้
(๑) ผู้ได้รับใบอนุญาตขาดคุณสมบัติในสาระสำคัญที่ไม่อาจแก้ไขได้ หรือขาดคุณสมบัติอื่นและไม่แก้ไขภายในกำหนดระยะเวลาตามคำสั่งของอธิบดี
(๒) ผู้ได้รับใบอนุญาตไม่อาจควบคุมคุณภาพหรือไม่อาจรักษาไว้ซึ่งขีดความสามารถในการผลิตผลิตภัณฑ์ให้ได้มาตรฐาน ทั้งนี้ ภายในกำหนดระยะเวลาตามคำสั่งของอธิบดีที่สั่งให้แก้ไขปรับปรุง
(๓) ผู้ได้รับใบอนุญาตถูกพักใช้ใบอนุญาตเกินกว่าสองครั้ง ในช่วงเวลาสองปี
(๔) ผู้ได้รับใบอนุญาตผลิตชิ้นส่วนรับรองคุณภาพหรือใบอนุญาตผลิตบริภัณฑ์ไม่แก้ไขแบบภายในระยะเวลาที่อธิบดีกำหนดตามมาตรา ๔๑/๔๕ หรือมาตรา ๔๑/๕๔
45. ข้อใด ไม่ใช่ ใบสำคัญสมควรเดินอากาศ
ก. ใบสำคัญสมควรเดินอากาศแบบเฉพาะ ค.ใบสำคัญสมควรเดินอากาศแบบมาตรฐาน
ข. ใบสำคัญสมควรเดินอากาศแบบพิเศษ ง. เป็นใบสำคัญสมควรเดินอากาศทุกข้อ
ตอบ ก. ใบสำคัญสมควรเดินอากาศแบบเฉพาะ
46. ใบสำคัญสมควรเดินอากาศมีกี่แบบ
ก. แบบเดียว ค. 3 แบบ
ข. 2 แบบ ง. 4 แบบ
ตอบ ข. 2 แบบ
มาตรา ๔๑/๖๒ ใบสำคัญสมควรเดินอากาศมีสองแบบ คือ
(๑) ใบสำคัญสมควรเดินอากาศแบบมาตรฐาน ออกให้สำหรับอากาศยานที่ใช้งานเพื่อวัตถุประสงค์ในการขนส่งคน หรือของ รวมทั้งสัตว์ และเป็นอากาศยานที่ได้สร้างขึ้นตามแบบในใบรับรองแบบมาตรฐานตามมาตรา ๓๗ (๑) หรือตามแบบที่มีหนังสือรับรองตามมาตรา ๔๑/๑๔
(๒) ใบสำคัญสมควรเดินอากาศแบบพิเศษ
47. ใบสำคัญสมควรเดินอากาศแบบพิเศษมีกี่ประเภท
ก. 2 ประเภท ค. 4 ประเภท
ข. 3 ประเภท ง. 5 ประเภท
ตอบ ค. 4 ประเภท
ใบสำคัญสมควรเดินอากาศแบบพิเศษมีสี่ประเภท ได้แก่
(ก) ประเภทที่หนึ่ง ออกให้สำหรับอากาศยานที่ใช้งานเพื่อวัตถุประสงค์นอกจากการขนส่งคน หรือของ รวมทั้งสัตว์ และเป็นอากาศยานที่สร้างขึ้นตามแบบในใบรับรองแบบเฉพาะตามมาตรา ๓๗ (๒) หรือตามแบบที่มีหนังสือรับรองตามมาตรา ๔๑/๑๔
(ข) ประเภทที่สอง ออกให้สำหรับอากาศยานที่ใช้งานเพื่อวัตถุประสงค์ในการบินทดลองเพื่อออกใบรับรองแบบตามมาตรา ๔๑/๒ วรรคหนึ่ง หรือใบรับรองแบบส่วนเพิ่มเติมตามมาตรา ๔๑/๕ วรรคสอง (๒) (ก) หรือเพื่อวัตถุประสงค์อื่นตามที่กำหนดในกฎกระทรวง
(ค) ประเภทที่สาม ออกให้สำหรับอากาศยานที่ใช้งานเพื่อวัตถุประสงค์ชั่วคราวและเป็นอากาศยานที่สร้างขึ้นตามแบบในใบรับรองแบบเป็นการชั่วคราวตามมาตรา ๔๑/๔
(ง) ประเภทที่สี่ ออกให้สำหรับอากาศยานที่ใช้งานเพื่อวัตถุประสงค์เฉพาะโดยไม่ต้องมีใบรับรองแบบตามมาตรา ๓๖ วรรคสาม
48. ใบสำคัญสมควรเดินอากาศแบบพิเศษประเภทใดที่ออกให้สำหรับอากาศยานที่ใช้งานเพื่อวัตถุประสงค์ในการบินทดลอง
ก. ประเภทที่ 1 ค. ประเภทที่ 3
ข. ประเภทที่ 2 ง. ประเภทที่ 4
ตอบ ข.ประเภทที่ 2
49. ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้อง
ก. ใบสำคัญสมควรเดินอากาศแบบมาตรฐาน ให้มีอายุคราวละ 3 ปี
ข. ใบสำคัญสมควรเดินอากาศแบบพิเศษประเภทที่สาม มีอายุคราวละ 2 ปี
ค. ใบสำคัญสมควรเดินอากาศแบบพิเศษประเภทที่หนึ่ง มีอายุคราวละ 3 ปี
ง. ใบสำคัญสมควรเดินอากาศแบบพิเศษประเภทที่สอง ให้มีอายุคราวละไม่เกิน 1 ปี
ตอบ ข. ใบสำคัญสมควรเดินอากาศแบบพิเศษประเภทที่สาม มีอายุคราวละ 2 ปี
มาตรา ๔๑/๖๘ ใบสำคัญสมควรเดินอากาศ ให้มีอายุดังต่อไปนี้
(๑) ใบสำคัญสมควรเดินอากาศแบบมาตรฐาน ให้มีอายุคราวละสามปี
(๒) ใบสำคัญสมควรเดินอากาศแบบพิเศษ
(ก) ประเภทที่หนึ่ง ให้มีอายุคราวละสามปี
(ข) ประเภทที่สอง ให้มีอายุคราวละไม่เกินหนึ่งปี ทั้งนี้ ต้องไม่เกินกำหนดระยะเวลาที่อธิบดีอนุญาตให้ผู้ขอใบรับรองแบบดำเนินการสร้างอากาศยานต้นแบบหรือต้นแบบส่วนประกอบสำคัญของอากาศยานให้แล้วเสร็จตามมาตรา ๓๘ วรรคสาม หรือระยะเวลาที่จะใช้ทำการบินตามวัตถุประสงค์อื่นตามมาตรา ๔๑/๖๒ (๒) (ข)
(ค) ประเภทที่สาม ให้มีอายุคราวละหนึ่งปี
(ง) ประเภทที่สี่ ให้มีอายุคราวละหนึ่งปี
50. การขอต่ออายุใบสำคัญสมควรเดินอากาศ ผู้ได้รับใบสำคัญสมควรเดินอากาศต้องยื่นคำขอต่ออธิบดีก่อนใบสำคัญสมควรเดินอากาศสิ้นอายุอย่างน้อยกี่วัน
ก. 60 วัน ค. 180 วัน
ข. 90 วัน ง. 30 วัน
ตอบ ก. 60 วัน
51. ใบสำคัญสมควรเดินอากาศเป็นอันสิ้นผลเมื่อมีเหตุใด
ก. อธิบดีสั่งเพิกถอนใบสำคัญสมควรเดินอากาศ
ข. มีการดัดแปลงอากาศยานโดยฝ่าฝืน
ค. อากาศยานนั้นได้รับความเสียหายหรือชำรุดจนอยู่ในสภาพอันตรายที่ผู้ประจำหน้าที่ไม่สามารถแก้ไขได้
ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
มาตรา ๔๑/๗๐ ภายใต้บังคับมาตรา ๔๑/๘๕ ใบสำคัญสมควรเดินอากาศเป็นอันสิ้นผลเมื่อมีเหตุหนึ่งเหตุใดดังต่อไปนี้
(๑) ใบสำคัญการจดทะเบียนอากาศยานลำนั้นเป็นอันใช้ไม่ได้ตามมาตรา ๓๒
(๒) ใบรับรองแบบอากาศยาน หรือใบรับรองแบบส่วนประกอบสำคัญของอากาศยานถูกเพิกถอนตามมาตรา ๔๑/๑๐ วรรคหนึ่ง
(๓) มีการดัดแปลงอากาศยานโดยฝ่าฝืนมาตรา ๔๑/๗๘
(๔) อธิบดีสั่งเพิกถอนใบสำคัญสมควรเดินอากาศตามมาตรา ๔๑/๘๗ หรือ
(๕) อากาศยานนั้นได้รับความเสียหายหรือชำรุดจนอยู่ในสภาพอันตรายที่ผู้ประจำหน้าที่ไม่สามารถแก้ไขได้
52. ข้อใด ไม่ใช่ หน้าที่ของผู้จดทะเบียนอากาศยาน
ก. จัดทำรายงานการบำรุงรักษาอากาศยานให้อธิบดีทราบทุกหกเดือน
ข. แจ้งการสูญหายของอากาศยานโดยไม่ชักช้า
ค. จัดทำรายงานเกี่ยวกับสาระสำคัญของอากาศยาน
ง. ตรวจอากาศยาน ประวัติการบำรุงรักษา
ตอบ ง. ตรวจอากาศยาน ประวัติการบำรุงรักษา
มาตรา ๔๑/๘๐ ผู้จดทะเบียนอากาศยานมีหน้าที่ ดังต่อไปนี้
(๑) จัดให้มีการบันทึกประวัติการบำรุงรักษาอากาศยาน ส่วนประกอบสำคัญของอากาศยานรวมทั้งการจัดเก็บหนังสือรับรองความสมควรเดินอากาศของส่วนประกอบสำคัญของอากาศยานชิ้นส่วนรับรองคุณภาพ และบริภัณฑ์ที่ใช้ในการบำรุงรักษา เพื่อเป็นหลักฐานในการบำรุงรักษา
(๒) จัดทำรายงานการบำรุงรักษาอากาศยานให้อธิบดีทราบทุกหกเดือน
(๓) จัดทำรายงานเกี่ยวกับสาระสำคัญของอากาศยานตามที่กำหนดไว้ในมาตรา ๓๒
(๔) แจ้งการสูญหายของอากาศยานโดยไม่ชักช้า
53. ใบสำคัญสมควรเดินอากาศเป็นอันใช้ไม่ได้เป็นการชั่วคราวเมื่อปรากฏว่ามีเหตุใด
ก. ส่วนประกอบสำคัญของอากาศยาน บริภัณฑ์ หรือชิ้นส่วนของอากาศยานที่นำมาเปลี่ยนทดแทนในอากาศยานไม่มีหนังสือรับรองความสมควรเดินอากาศ
ข. อากาศยานนั้นไม่ได้รับการบำรุงรักษาตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และกำหนดเวลาการบำรุงรักษาที่อธิบดีประกาศกำหนด
ค. การเปลี่ยนผลิตภัณฑ์ในอากาศยาน ไม่ได้รับการรับรองการบำรุงรักษา
ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
มาตรา ๔๑/๘๕ ให้ใบสำคัญสมควรเดินอากาศเป็นอันใช้ไม่ได้เป็นการชั่วคราวเมื่อปรากฏว่ามีเหตุหนึ่งเหตุใดดังต่อไปนี้
(๑) ส่วนประกอบสำคัญของอากาศยาน บริภัณฑ์ หรือชิ้นส่วนของอากาศยานที่นำมาเปลี่ยนทดแทนในอากาศยานไม่มีหนังสือรับรองความสมควรเดินอากาศตามมาตรา ๔๑/๗๓ วรรคหนึ่ง
(๒) อากาศยานนั้นไม่ได้รับการบำรุงรักษาตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และกำหนดเวลาการบำรุงรักษาที่อธิบดีประกาศกำหนดตามมาตรา ๔๑/๗๗ วรรคสอง
(๓) การเปลี่ยนผลิตภัณฑ์ตาม (๑) ในอากาศยาน ไม่ได้รับการรับรองการบำรุงรักษาตามมาตรา ๔๑/๘๔
(๔) เมื่อผู้ควบคุมอากาศยานแจ้งให้นายช่างทำการบำรุงรักษาตามมาตรา ๔๑/๘๘
54. ห้ามมิให้ผู้ใดนำอากาศยานทำการบิน ในกรณีใด
ก. อากาศยานนั้นอยู่ในระหว่างต้องคำสั่งห้ามบิน
ข. ใบสำคัญสมควรเดินอากาศเป็นอันใช้ไม่ได้เป็นการชั่วคราว
ค. ไม่มีใบสำคัญสมควรเดินอากาศ
ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
มาตรา ๔๑/๘๙ ห้ามมิให้ผู้ใดนำอากาศยานทำการบิน ในกรณีดังต่อไปนี้
(๑) ไม่มีใบสำคัญสมควรเดินอากาศตามมาตรา ๔๑/๖๑
(๒) ใบสำคัญสมควรเดินอากาศเป็นอันสิ้นผลตามมาตรา ๔๑/๗๐
(๓) ใบสำคัญสมควรเดินอากาศเป็นอันใช้ไม่ได้เป็นการชั่วคราวตามมาตรา ๔๑/๘๕
(๔) อากาศยานนั้นไม่ได้รับการตรวจตามรายการเมื่อพ้นกำหนดระยะเวลาที่พนักงานเจ้าหน้าที่หรืออธิบดีสั่งตามมาตรา ๔๑/๘๑ หรือมาตรา ๔๑/๘๒
(๕) อากาศยานนั้นอยู่ในระหว่างต้องคำสั่งห้ามบินตามมาตรา ๔๑/๘๓
(๖) ใบสำคัญสมควรเดินอากาศถูกพักใช้ตามมาตรา ๔๑/๘๖ หรือ
(๗) ใบสำคัญสมควรเดินอากาศถูกเพิกถอนตามมาตรา ๔๑/๘๗
55. ใบรับรองหน่วยซ่อมมีกี่ประเภท
ก. 2 ประเภท ค. 4 ประเภท
ข. 3 ประเภท ง. 5 ประเภท
ตอบ ข. 3 ประเภท
ใบรับรองหน่วยซ่อมมีสามประเภท คือ
(๑) ประเภทที่หนึ่ง สำหรับบำรุงรักษาอากาศยาน
(๒) ประเภทที่สอง สำหรับบำรุงรักษาส่วนประกอบสำคัญของอากาศยาน
(๓) ประเภทที่สาม สำหรับบำรุงรักษาบริภัณฑ์และชิ้นส่วนของอากาศยาน
56. ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้องเกี่ยวกับใบรับรองหน่วยซ่อม
ก. ใบรับรองหน่วยซ่อมประเภทที่หนึ่ง ให้มีอายุคราวละไม่เกิน 5 ปี
ข. ใบรับรองหน่วยซ่อมประเภทที่สอง ให้มีอายุคราวละไม่เกิน 10 ปี
ค. ใบรับรองหน่วยซ่อมประเภทที่สาม ให้มีอายุคราวละไม่เกิน 5 ปี
ง. กล่าวถูกทุกข้อ
ตอบ ก. ใบรับรองหน่วยซ่อมประเภทที่หนึ่ง ให้มีอายุคราวละไม่เกิน 5 ปี
มาตรา ๔๑/๙๗ ใบรับรองหน่วยซ่อม ให้มีอายุดังต่อไปนี้
(๑) ใบรับรองหน่วยซ่อมประเภทที่หนึ่ง ให้มีอายุคราวละไม่เกินยี่สิบปี
(๒) ใบรับรองหน่วยซ่อมประเภทที่สอง ให้มีอายุคราวละไม่เกินสิบปี
(๓) ใบรับรองหน่วยซ่อมประเภทที่สาม ให้มีอายุคราวละไม่เกินห้าปี
57. การขอต่ออายุใบรับรองหน่วยซ่อม ผู้ได้รับใบรับรองหน่วยซ่อมต้องยื่นคำขอต่ออธิบดีก่อนใบรับรองสิ้นอายุอย่างน้อยกี่วัน
ก. 90 วัน ค. 30 วัน
ข. 120 วัน ง. 60 วัน
ตอบ ง. 60 วัน
58. ข้อใดคือคุณสมบัติของผู้ขออนุญาตเป็นผู้ประจำหน้าที่
ก. มีสัญชาติไทย
ข. มีความประพฤติเรียบร้อย
ค. มีอายุ สุขภาพร่างกายสมบูรณ์ ความรู้และความชำนาญตามที่กำหนดไว้ในข้อบังคับของคณะกรรมการการบินพลเรือน
ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง.ถูกทุกข้อ
59. ห้ามมิให้บุคคลใดจัดตั้งสนามบินหรือเครื่องอำนวยความสะดวกในการเดินอากาศ เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากใคร
ก. พนักงานเจ้าหน้าที่โดยอนุมัติรัฐมนตรี ค. อธิบดีกรมการขนส่งทางอากาศ
ข. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ง. คณะกรรมการการบินพลเรือน
ตอบ ก. พนักงานเจ้าหน้าที่โดยอนุมัติรัฐมนตรี
60. ใครมีอำนาจประกาศกำหนดพื้นดินหรือน้ำแห่งใดเป็นสนามบินอนุญาต หรือที่ขึ้นลงชั่วคราวของอากาศยาน
ก. พนักงานเจ้าหน้าที่โดยอนุมัติรัฐมนตรี ค. อธิบดีกรมการขนส่งทางอากาศ
ข. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ง. คณะกรรมการการบินพลเรือน
ตอบ ข. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม
61. เจ้าของหรือผู้ดำเนินการสนามบินอนุญาตซึ่งให้บริการแก่สาธารณะ จะเรียกเก็บเงินเพื่อการใช้สนามบินอนุญาตที่ให้บริการแก่สาธารณะไม่ได้ เว้นแต่ข้อใด
ก. ค่าบริการในการขึ้นลงของอากาศยาน ค. ค่าบริการผู้โดยสารขาออก
ข. ค่าบริการที่เก็บอากาศยาน ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
มาตรา ๕๖ เจ้าของหรือผู้ดำเนินการสนามบินอนุญาตซึ่งให้บริการแก่สาธารณะ จะเรียกเก็บเงินเพื่อการใช้สนามบินอนุญาตที่ให้บริการแก่สาธารณะไม่ได้ เว้นแต่ค่าบริการ ค่าภาระ หรือเงินตอบแทนอื่นใด ดังต่อไปนี้
(๑) ค่าบริการผู้โดยสารขาออกตามหมวด ๖ ทวิ
(๒) ค่าบริการในการขึ้นลงของอากาศยาน
(๓) ค่าบริการที่เก็บอากาศยาน
(๔) ค่าบริการในลานจอดอากาศยาน
(๕) ค่าบริการ ค่าภาระ หรือเงินตอบแทนอื่นใดตามที่กำหนดโดยพระราชกฤษฎีกา
62. ใบรับรองการดำเนินงานสนามบินสาธารณะมีอายุคราวละกี่ปี
ก. 10 ปี ค. 30 ปี
ข. 20 ปี ง. 40 ปี
ตอบ ก. 10 ปี
63. การขอต่ออายุใบรับรองการดำเนินงานสนามบินสาธารณะ ผู้ได้รับใบรับรองการดำเนินงานสนามบินสาธารณะต้องยื่นคำขอต่ออธิบดีก่อนวันที่ใบรับรองดังกล่าวสิ้นอายุไม่น้อยกว่ากี่วัน
ก. 90 วัน ค. 30 วัน
ข. 120 วัน ง. 60 วัน
ตอบ ก. 90 วัน
64. ผู้จัดการสนามบินสาธารณะต้องมีอายุเท่าใด
ก. อายุไม่ต่ำกว่า 30 ปีบริบูรณ์ ค. อายุไม่ต่ำกว่า 40 ปีบริบูรณ์
ข. อายุไม่ต่ำกว่า 35 ปีบริบูรณ์ ง. อายุไม่ต่ำกว่า 25 ปีบริบูรณ์
ตอบ ข. อายุไม่ต่ำกว่า 35 ปีบริบูรณ์
มาตรา ๖๐/๑๓ ผู้จัดการสนามบินสาธารณะตามมาตรา ๖๐/๑๑ ต้องมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้
(๑) มีอายุไม่ต่ำกว่า ๓๕ ปีบริบูรณ์
(๒) มีความรู้และความชำนาญตามที่กำหนดในข้อบังคับของคณะกรรมการการบินพลเรือน
(๓) มีคุณสมบัติอื่นตามที่กำหนดในกฎกระทรวง
65. ข้อใดคือหน้าที่ของผู้จัดการสนามบินสาธารณะ
ก. รับผิดชอบในการดำเนินงานสนามบินอนุญาตหรือที่ขึ้นลงชั่วคราวอนุญาตซึ่งให้บริการสาธารณะ
ข. ตรวจค้นผู้โดยสาร ผู้ประจำหน้าที่ หรือผู้ปฏิบัติงานที่จะขึ้นอากาศยาน รวมถึงสิ่งใด ๆ ที่บุคคลดังกล่าวจะนำขึ้นอากาศยาน
ค. ตรวจค้นสัมภาระหรือสิ่งของที่จะบรรทุกไปกับอากาศยาน
ง. ตรวจค้นบุคคล ยานพาหนะ รวมทั้งสิ่งของที่จะเข้าไปในเขตหวงห้ามของสนามบิน
ตอบ ก. รับผิดชอบในการดำเนินงานสนามบินอนุญาตหรือที่ขึ้นลงชั่วคราวอนุญาตซึ่งให้บริการสาธารณะ
66. ข้อใดคือหน้าที่ของผู้ได้รับใบรับรองการดำเนินงานสนามบินสาธารณะ
ก. ควบคุมการดำเนินการของผู้จัดการสนามบินสาธารณะ
ข. ให้บริการแก่ผู้ใช้บริการอย่างเสมอภาค
ค. จัดให้มีบุคลากรอย่างเพียงพอ และมีระบบควบคุมดูแลการปฏิบัติหน้าที่ของบุคลากรดังกล่าวอยู่เสมอ
ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
มาตรา ๖๐/๑๕ ผู้ได้รับใบรับรองการดำเนินงานสนามบินสาธารณะมีหน้าที่ ดังต่อไปนี้
(๑) ให้บริการแก่ผู้ใช้บริการอย่างเสมอภาค และจัดเก็บค่าบริการ ค่าภาระหรือเงินตอบแทนอื่นใดให้เป็นไปตามมาตรา ๕๖ และมาตรา ๖๐/๓๗
(๒) ควบคุมการดำเนินการของผู้จัดการสนามบินสาธารณะ
(๓) ดำเนินงานสนามบินอนุญาตหรือที่ขึ้นลงชั่วคราวอนุญาตนั้น โดย
(ก) จัดให้มี ปรับปรุง และปฏิบัติตามระเบียบเกี่ยวกับกระบวนการการดำเนินงานระบบการจัดการด้านนิรภัย การรักษาความปลอดภัย และระบบการตรวจสอบภายในของสนามบินอนุญาตหรือที่ขึ้นลงชั่วคราวอนุญาตนั้น
(ข) จัดให้มีบุคลากรอย่างเพียงพอ และมีระบบควบคุมดูแลการปฏิบัติหน้าที่ของบุคลากรดังกล่าวอยู่เสมอ
(ค) จัดให้มีคู่มือการดำเนินงานสนามบินอนุญาตหรือที่ขึ้นลงชั่วคราวอนุญาตสำหรับบุคลากรอย่างครบถ้วน และปรับปรุงหรือแก้ไขคู่มือการดำเนินงานดังกล่าวให้ทันสมัยอยู่เสมอ
(ง) รักษาสนามบินอนุญาตหรือที่ขึ้นลงชั่วคราวอนุญาต สิ่งอำนวยความสะดวกรวมทั้งสิ่งติดตั้งและอุปกรณ์ในสนามบินอนุญาตหรือที่ขึ้นลงชั่วคราวอนุญาตนั้น ให้เป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนดในข้อบังคับของคณะกรรมการการบินพลเรือน
(จ) ควบคุมดูแลการบริการภายในสนามบินอนุญาตหรือที่ขึ้นลงชั่วคราวอนุญาตตามที่ได้รับใบรับรองนั้น ให้เป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนดในข้อบังคับของคณะกรรมการการบินพลเรือน
(ฉ) จัดทำรายงานต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ตามระเบียบที่อธิบดีกำหนด
(๔) ให้ความร่วมมือแก่อธิบดีหรือพนักงานเจ้าหน้าที่ในการดำเนินการตามมาตรา ๖๐/๑๙ มาตรา ๖๐/๒๐ และมาตรา ๖๐/๒๒
(๕) ปฏิบัติหน้าที่อื่นตามที่กำหนดในกฎกระทรวง
67. ค่าบริการผู้โดยสารขาออกให้ใช้จ่ายได้ เพื่อการใด
ก. การก่อสร้างหรือการติดตั้งอุปกรณ์เพื่อลดผลกระทบทางเสียงที่เกิดขึ้นจากการใช้สนามบิน
ข. การรักษาสิ่งแวดล้อมและลดมลพิษที่เกิดจากการใช้สนามบิน
ค. การซ่อมแซม ปรับปรุง หรือขยายสนามบิน
ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
มาตรา ๖๐/๓๙ ค่าบริการผู้โดยสารขาออกให้ใช้จ่ายได้ เพื่อการดังต่อไปนี้
(๑) การซ่อมแซม ปรับปรุง หรือขยายสนามบิน
(๒) การจัดหา ปรับปรุง หรือดำเนินงานสิ่งอำนวยความสะดวกในสนามบินให้แก่ผู้โดยสาร
(๓) การปรับปรุงความปลอดภัยหรือการรักษาความปลอดภัยของสนามบิน
(๔) การก่อสร้างหรือการติดตั้งอุปกรณ์เพื่อลดผลกระทบทางเสียงที่เกิดขึ้นจากการใช้สนามบิน
(๕) การรักษาสิ่งแวดล้อมและลดมลพิษที่เกิดจากการใช้สนามบิน
(๖) การอื่นที่เกี่ยวเนื่องกับสนามบิน ตามที่รัฐมนตรีอนุมัติ
68. รัฐมนตรีมีอำนาจกำหนดให้เจ้าของหรือผู้ดำเนินการสนามบินอนุญาตนำเงินที่ได้จากการจัดเก็บค่าบริการผู้โดยสารขาออกในอัตราไม่เกินร้อยละเท่าใด เข้าบัญชีเงินทุนหมุนเวียน
ก. ร้อยละ 30 ค. ร้อยละ 15
ข. ร้อยละ 20 ง. ร้อยละ 10
ตอบ ง. ร้อยละ 10
69. ผู้เข้าไปในลานจอดอากาศยานต้องปฏิบัติตามข้อบังคับของใคร
ก. พนักงานเจ้าหน้าที่โดยอนุมัติรัฐมนตรี ค. อธิบดีกรมการขนส่งทางอากาศ
ข. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ง. คณะกรรมการการบินพลเรือน
ตอบ ง. คณะกรรมการการบินพลเรือน
มาตรา ๖๐ สัตต ห้ามมิให้ผู้ใดเข้าไปในลานจอดอากาศยานเว้นแต่จะได้ปฏิบัติตามมาตรการรักษาความปลอดภัยที่กำหนดโดยเจ้าของสนามบินอนุญาตหรือผู้ซึ่งได้รับมอบหมายจากเจ้าของให้เป็นผู้รักษาสนามบินอนุญาต
ผู้เข้าไปในลานจอดอากาศยานต้องปฏิบัติตามข้อบังคับของคณะกรรมการการบินพลเรือน
70. เมื่อเกิดอุบัติเหตุแก่อากาศยานใดในราชอาณาจักรห้ามมิให้บุคคลใดปฏิบัติการอย่างหนึ่งอย่างใดแก่อากาศยานหรือส่วนของอากาศยานนั้นโดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ พนักงานฝ่ายปกครอง หรือตำรวจเว้นแต่กรณีจำเป็นในข้อใด
ก. ป้องกันภยันตรายมิให้เกิดแก่ประชาชน
ข. ให้คน ไปรษณียภัณฑ์และสัตว์พ้นภัย
ค. เคลื่อนย้ายอากาศยานหรือส่วนของอากาศยานนั้นมิให้กีดขวางต่อการเดินอากาศ หรือการขนส่งอย่างอื่น
ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
มาตรา ๖๒ เมื่อเกิดอุบัติเหตุแก่อากาศยานใดในราชอาณาจักร ให้อากาศยานนั้นอยู่ในความพิทักษ์ของพนักงานเจ้าหน้าที่ และห้ามมิให้บุคคลใดปฏิบัติการอย่างหนึ่งอย่างใดแก่อากาศยานหรือส่วนของอากาศยานนั้นโดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ พนักงานฝ่ายปกครอง หรือตำรวจเว้นแต่กรณีจำเป็นเพื่อ
(๑) ให้คน ไปรษณียภัณฑ์และสัตว์พ้นภัย
(๒) คุ้มครองอากาศยานนั้นมิให้เสียหายโดยไฟไหม้หรือเหตุอื่นใด
(๓) ป้องกันภยันตรายมิให้เกิดแก่ประชาชน
(๔) เคลื่อนย้ายอากาศยานหรือส่วนของอากาศยานนั้นมิให้กีดขวางต่อการเดินอากาศ หรือการขนส่งอย่างอื่น
(๕) เคลื่อนย้ายอากาศยานหรือส่วนของอากาศยานนั้นไปสู่ที่ปลอดภัยเมื่ออับปางในน้ำ หรือ
(๖) เคลื่อนย้ายสิ่งของหรือสินค้าให้พ้นภยันตรายในกรณีนี้ให้ทำภายใต้ความควบคุมดูแลของพนักงานเจ้าหน้าที่ พนักงานฝ่ายปกครอง หรือตำรวจ
71. ใครมีอำนาจแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนเพื่อดำเนินการสอบสวนในเรื่องใด ๆ อันเกี่ยวกับอุบัติเหตุของอากาศยานในราชอาณาจักร
ก. พนักงานเจ้าหน้าที่โดยอนุมัติรัฐมนตรี ค. อธิบดีกรมการขนส่งทางอากาศ
ข. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ง. คณะกรรมการการบินพลเรือน
ตอบ ข. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม
72. การกระทำใดต้องระวางโทษปรับไม่เกินห้าหมื่นบาท
ก. นำอากาศยานทำการบิน โดยมีผู้ประจำหน้าที่ที่ไม่นำใบอนุญาตผู้ประจำหน้าที่ของตนติดไปกับอากาศยาน
ข. นำอากาศยานทำการบิน โดยไม่นำใบสำคัญการจดทะเบียน ใบสำคัญสมควรเดินอากาศสมุดปูมเดินทาง ใบอนุญาตเครื่องวิทยุสื่อสารถ้ามีเครื่องวิทยุสื่อสาร บัญชีแสดงรายชื่อผู้โดยสารและบัญชีแสดงรายการสินค้าติดไปกับอากาศยาน
ค. นำอากาศยานทำการบิน โดยอากาศยานนั้นไม่แสดงเครื่องหมายสัญชาติและทะเบียนหรือไม่ติดแผ่นแสดงเครื่องหมายอากาศยาน
ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
มาตรา ๖๘ ผู้ใดกระทำการอย่างใดอย่างหนึ่งดังต่อไปนี้ ต้องระวางโทษปรับไม่เกินห้าหมื่นบาท
(๑) นำอากาศยานทำการบิน โดยไม่นำใบสำคัญการจดทะเบียน ใบสำคัญสมควรเดินอากาศสมุดปูมเดินทาง ใบอนุญาตเครื่องวิทยุสื่อสารถ้ามีเครื่องวิทยุสื่อสาร บัญชีแสดงรายชื่อผู้โดยสารและบัญชีแสดงรายการสินค้าติดไปกับอากาศยานตามมาตรา ๑๖ (๑) (๓) (๔) (๖) (๗) (๘) หรือ (๙)
(๒) นำอากาศยานทำการบิน โดยอากาศยานนั้นไม่แสดงเครื่องหมายสัญชาติและทะเบียนหรือไม่ติดแผ่นแสดงเครื่องหมายอากาศยานตามมาตรา ๑๖ (๒)
(๓) นำอากาศยานทำการบิน โดยมีผู้ประจำหน้าที่ที่ไม่นำใบอนุญาตผู้ประจำหน้าที่ของตนติดไปกับอากาศยานตามมาตรา ๑๖ (๕)
(๔) นำอากาศยานส่วนบุคคลทำการบิน โดยไม่นำใบอนุญาตใช้อากาศยานส่วนบุคคลติดไปกับอากาศยานตามมาตรา ๒๙ เบญจ
(๕) นำอากาศยานทำการบิน โดยฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามข้อจำกัดความสมควรเดินอากาศหรือข้อจำกัดอื่นตามมาตรา ๔๑/๒ วรรคสอง หรือมาตรา ๔๑/๔ วรรคหนึ่ง หรือเงื่อนไขหรือข้อจำกัดการใช้งานตามมาตรา ๔๑/๙ วรรคสอง ที่เกี่ยวกับความปลอดภัย โดยไม่มีเหตุอันสมควร
73. ผู้ควบคุมอากาศยานผู้ใดไม่บันทึกรายการในสมุดปูมเดินทาง ต้องระวางโทษอย่างไร
ก. จำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ข. จำคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ
ค. จำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินสองแสนบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ
ง. ปรับไม่เกินห้าหมื่นบาท
ตอบ ข. จำคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา ๗๐ ผู้ควบคุมอากาศยานผู้ใดไม่บันทึกรายการในสมุดปูมเดินทาง บันทึกรายการในสมุดปูมเดินทางไม่ครบถ้วน หรือบันทึกรายการในสมุดปูมเดินทางไม่ตรงตามความเป็นจริงตามมาตรา ๑๖/๑ วรรคสอง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ
74. ผู้จดทะเบียนอากาศยานหรือผู้ดำเนินการเดินอากาศ กระทำการในข้อใด ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินแปดหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ก. ไม่จัดให้มีสมุดปูมเดินทาง หรือจัดให้มีสมุดปูมเดินทางแต่มีรายการไม่ครบถ้วน
ข. ไม่เก็บรักษาสมุดปูมเดินทางตามที่กำหนดในข้อบังคับของคณะกรรมการการบินพลเรือน
ค. ไม่จัดให้มีเครื่องหมายสัญชาติและทะเบียนหรือไม่ติดแผ่นแสดงเครื่องหมายอากาศยานตามที่กำหนดไว้ในข้อบังคับของคณะกรรมการการบินพลเรือน
ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
มาตรา ๖๙ ผู้จดทะเบียนอากาศยานหรือผู้ดำเนินการเดินอากาศผู้ใดกระทำการอย่างใดอย่างหนึ่งดังต่อไปนี้ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินแปดหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
(๑) ไม่จัดให้มีสมุดปูมเดินทางตามมาตรา ๑๖/๑ วรรคหนึ่ง หรือจัดให้มีสมุดปูมเดินทางแต่มีรายการไม่ครบถ้วนตามมาตรา ๑๖/๑ วรรคสอง
(๒) ไม่เก็บรักษาสมุดปูมเดินทางตามที่กำหนดในข้อบังคับของคณะกรรมการการบินพลเรือนที่ออกตามมาตรา ๑๖/๑ วรรคสาม
(๓) ไม่จัดให้มีเครื่องหมายสัญชาติและทะเบียนหรือไม่ติดแผ่นแสดงเครื่องหมายอากาศยานตามที่กำหนดไว้ในข้อบังคับของคณะกรรมการการบินพลเรือนที่ออกตามมาตรา ๓๓
75. การกระทำการใดต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินสองแสนบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ
ก. นำอากาศยานบินนอกเส้นทางบินที่กำหนดในกฎกระทรวง
ข. ไม่จัดให้มีบัญชีแสดงรายชื่อผู้โดยสารหรือบัญชีแสดงรายการสินค้า
ค. ไม่เก็บรักษาบัญชีหรือไม่บันทึกรายการในบัญชีตามที่กำหนดในข้อบังคับของคณะกรรมการการบินพลเรือน
ง. ไม่มีข้อถูก
ตอบ ก. นำอากาศยานบินนอกเส้นทางบินที่กำหนดในกฎกระทรวง
มาตรา ๗๒ เว้นแต่จะมีกรณีฉุกเฉินอันอาจเป็นอันตรายแก่อากาศยานหรือบุคคลในอากาศยานผู้ใดกระทำการอย่างใดอย่างหนึ่งดังต่อไปนี้ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินสองแสนบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ
(๑) นำอากาศยานขึ้นลงโดยฝ่าฝืนมาตรา ๑๗ หรือมาตรา ๕๐ ทวิ
(๒) นำอากาศยานบินนอกเส้นทางบินที่กำหนดในกฎกระทรวงที่ออกตามมาตรา ๑๘
76. ผู้ควบคุมอากาศยานผู้ใดนำอากาศยานทำการบินโดยฝ่าฝืน หรือไม่ปฏิบัติตามที่กำหนดในข้อบังคับของคณะกรรมการการบินพลเรือนต้องระวางโทษปรับเท่าใด
ก. ปรับไม่เกินสองหมื่นบาท ค. ปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท
ข. ปรับไม่เกินสามหมื่นบาท ง. ปรับไม่เกินห้าหมื่นบาท
ตอบ ง.ปรับไม่เกินห้าหมื่นบาท
77. ผู้ใดกระทำการอย่างใดอย่างหนึ่งในข้อใด ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปีหรือปรับไม่เกินแปดหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ก. บังคับหรือปล่อยอากาศยาน ซึ่งไม่มีนักบินหรือทิ้งร่มอากาศโดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นหนังสือจากรัฐมนตรี
ข. นำอากาศยานทหารต่างประเทศบินผ่านหรือขึ้นลงในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นหนังสือจากรัฐมนตรี
ค. ส่งหรือพาวัตถุอันตรายหรือสัตว์ไปกับอากาศยานโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่
ง. ขัดขวางการเข้าดำเนินการหรือเข้าควบคุมการดำเนินงานสนามบินอนุญาตหรือที่ขึ้นลงชั่วคราวอนุญาต
ตอบ ค. ส่งหรือพาวัตถุอันตรายหรือสัตว์ไปกับอากาศยานโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่
มาตรา ๗๙ ผู้ใดกระทำการอย่างใดอย่างหนึ่งดังต่อไปนี้ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปีหรือปรับไม่เกินแปดหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
(๑) ส่งหรือพายุทธภัณฑ์ไปกับอากาศยานโดยไม่ได้รับอนุญาตจากรัฐมนตรีตามมาตรา ๒๕
(๒) ส่งหรือพาวัตถุอันตรายหรือสัตว์ไปกับอากาศยานโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ตามมาตรา ๒๖
(๓) เป็นผู้ประจำหน้าที่โดยไม่ได้รับใบอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ตามมาตรา ๔๒
78. ผู้ใดผลิตอากาศยานโดยไม่ได้รับอนุญาต ต้องระวางโทษอย่างไร
ก. ปรับตั้งแต่ห้าหมื่นบาทถึงห้าแสนบาท
ข. จำคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ค. จำคุกไม่เกินห้าปีหรือปรับไม่เกินหนึ่งล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ง. จำคุกไม่เกินสองปีหรือปรับไม่เกินแปดหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ตอบ ค. จำคุกไม่เกินห้าปีหรือปรับไม่เกินหนึ่งล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา ๘๙ ผู้ใดกระทำการอย่างใดอย่างหนึ่งดังต่อไปนี้ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปีหรือปรับไม่เกินหนึ่งล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
(๑) ผลิตอากาศยานโดยไม่ได้รับอนุญาตตามมาตรา ๔๑/๒๑
(๒) ผลิตส่วนประกอบสำคัญของอากาศยานโดยไม่ได้รับอนุญาตตามมาตรา ๔๑/๓๒
(๓) ประกอบกิจการหน่วยซ่อมโดยไม่ได้รับใบรับรองตามมาตรา ๔๑/๙๔
(๔) ประกอบกิจการบำรุงรักษาอากาศยานต่างประเทศในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับใบอนุญาตตามมาตรา ๔๑/๑๑๐
(๕) เปิดสนามบินหรือที่ขึ้นลงชั่วคราวของอากาศยานให้บริการแก่สาธารณะ โดยไม่ได้รับใบรับรองการดำเนินงานสนามบินสาธารณะจากอธิบดีตามมาตรา ๖๐/๑
79. ผู้ใดเป็นผู้จัดการสนามบินสาธารณะโดยไม่ได้รับใบรับรองจากอธิบดี ต้องระวางโทษอย่างไร
ก. โทษปรับตั้งแต่ห้าหมื่นบาทถึงห้าแสนบาท
ข. จำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนสองหมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ
ค. จำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ง. จำคุกไม่เกินสิบปีและปรับไม่เกินสองล้านบาท
ตอบ ข. จำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนสองหมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ
80. ผู้ใดปลอมใบรับรอง ใบอนุญาต ใบสำคัญ หนังสืออนุญาตหรือหนังสือรับรอง ต้องระวางโทษอย่างไร
ก. จำคุกตั้งแต่หกเดือนถึงห้าปี หรือปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ข. จำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนสองหมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ
ค. จำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ง. จำคุกไม่เกินสิบปีและปรับไม่เกินสองล้านบาท
ตอบ ก. จำคุกตั้งแต่หกเดือนถึงห้าปี หรือปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
81. คณะกรรมการเปรียบเทียบความผิดที่รัฐมนตรีแต่งตั้งมีกี่คน
ก. 5 คน ค. 7 คน
ข. 3 คน ง. 4 คน
ตอบ ข. 3 คน
มาตรา ๑๒๒ ให้มีคณะกรรมการเปรียบเทียบความผิดที่รัฐมนตรีแต่งตั้งจำนวนสามคนประกอบด้วยผู้แทนกระทรวงคมนาคม ผู้แทนกรมการขนส่งทางอากาศ และผู้แทนสำนักงานอัยการสูงสุด
82. ใบสำคัญการจดทะเบียนอากาศยาน ฉบับละกี่บาท
ก. 10,000 บาท ค. 200,000 บาท
ข. 100,000 บาท ง. 300,000 บาท
ตอบ ข. 100,000 บาท
83. ใบอนุญาตส่งหรือพาวัตถุอันตรายหรือสัตว์ไปกับอากาศยาน ฉบับละกี่บาท
ก. 10,000 บาท ค. 200,000 บาท
ข. 100,000 บาท ง. 300,000 บาท
ตอบ ก. 10,000 บาท
84. ใบอนุญาตใช้อากาศยานส่วนบุคคล ฉบับละกี่บาท
ก. 10,000 บาท ค. 200,000 บาท
ข. 100,000 บาท ง. 300,000 บาท
ตอบ ก. 10,000 บาท
85. ใบรับรองแบบอากาศยาน ฉบับละกี่บาท
ก. 10,000 บาท ค. 200,000 บาท
ข. 100,000 บาท ง. 1,000,000 บาท
ตอบ ง. 1,000,000 บาท
86. ใบอนุญาตจัดตั้งสนามบินสำหรับสนามบินที่ให้บริการสาธารณะ ฉบับละกี่บาท
ก. 100,000 บาท ค. 200,000 บาท
ข. 150,000 บาท ง. 500,000 บาท
ตอบ ข. 150,000 บาท
87. ใบอนุญาตจัดตั้งสนามบิน สำหรับสนามบินส่วนบุคคล ฉบับละกี่บาท
ค. 100,000 บาท ค. 200,000 บาท
ง. 150,000 บาท ง. 500,000 บาท
ตอบ ก. 100,000 บาท
88. ใบรับรองผู้จัดการสนามบินสาธารณะ ฉบับละกี่บาท
ก. 10,000 บาท ค. 30,000 บาท
ข. 20,000 บาท ง. 40,000 บาท
ตอบ ข. 20,000 บาท
89. หนังสือรับรองความสมควรเดินอากาศ ฉบับละกี่บาท
ก. 10,000 บาท ค. 30,000 บาท
ค. 20,000 บาท ง. 40,000 บาท
ตอบ ก. 10,000 บาท
90. ใบอนุญาตผลิตชิ้นส่วนรับรองคุณภาพ ฉบับละกี่บาท
ก. 100,000 บาท ค. 200,000 บาท
ข. 150,000 บาท ง. 500,000 บาท
ตอบ ค. 200,000 บาท
91. ใบอนุญาตผลิตส่วนประกอบสำคัญของอากาศยาน ฉบับละกี่บาท
ก. 100,000 บาท ค. 200,000 บาท
ข. 150,000 บาท ง. 300,000 บาท
ตอบ ง. 300,000 บาท
92. ใบอนุญาตผลิตอากาศยาน ฉบับละกี่บาท
ก. 100,000 บาท ค. 200,000 บาท
ข. 150,000 บาท ง. 500,000 บาท
ตอบ ง. 500,000 บาท
93. ใบรับรองแบบส่วนประกอบสำคัญของอากาศยาน ฉบับละกี่บาท
ก. 100,000 บาท ค. 200,000 บาท
ข. 150,000 บาท ง. 500,000 บาท
ตอบ ง. 500,000 บาท
94. ใบรับรองหน่วยซ่อม ฉบับละกี่บาท
ก. 100,000 บาท ค. 200,000 บาท
ข. 150,000 บาท ง. 500,000 บาท
ตอบ ก. 100,000 บาท
95. ใบอนุญาตจัดตั้งที่ขึ้นลงชั่วคราวของอากาศยานไม่เกิน ๓ เดือน ฉบับละกี่บาท
ก. 50,000 บาท ค. 7,000 บาท
ข. 30,000 บาท ง. 4,000 บาท
ตอบ ค. 7,000 บาท